เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2564 นายประทุม เรืองฤทธิ์ ประธานสมาพันธ์ครูภาคใต้ ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวการศึกษาออนไลน์ EdunewsSiam.com ถึงความคืบหน้าสถานการณ์การเตรียมความพร้อมเปิดภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 ของโรงเรียนประถมศึกษาในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ ตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ว่า โดยภาพรวมโรงเรียนต่างๆ ต้องการที่จะเปิดโรงเรียนสอนแบบ Onsite เพื่อให้เด็กๆ ระดับประถมศึกษาได้มาเรียนกับครู ซึ่งจะได้ผลมากกว่าการเรียนการสอนในรูปแบบอื่นๆ
ไม่ว่ารูปแบบ On-hand, Online ที่ 2 ภาคเรียนที่ผ่านมา ทั้งภาคเรียนที่ 2/2563 และภาคเรียนที่ 1/2564 เป็นที่ประจักษ์ว่าเด็กนักเรียนประถมศึกษาส่วนใหญ่มีปัญหากับการเรียน โดยเฉพาะรูปแบบ Online เด็กแทบไม่ได้เรียนเลย
แต่อย่างไรก็ตาม ผู้ปกครองส่วนใหญ่ประมาณ 60% ในหลายโรงเรียนยังไม่ต้องการให้เปิดการเรียนการสอนแบบ Onsite ที่โรงเรียน โดยเฉพาะโรงเรียนที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ชุมชนที่มีทั้งกลุ่มคนที่ดูแลป้องกันตัวเองดี และไม่ค่อยดูแลเรื่องการป้องกันโรค
นอกจากนี้ มีกรณีโรงเรียนที่อยู่ในพื้นที่ชุมชนที่ผู้ปกครองเอาใจใส่เรื่องสุขอนามัยความปลอดภัยของบุตรหลาน อย่างเช่นที่โรงเรียนที่ตนสอนอยู่ในพื้นที่ อ.กงหรา จ.พัทลุง ผู้ปกครองจะมีข้อเสนอให้ทางโรงเรียนต้องดำเนินการในหลายประการก่อน จึงจะมีความเชื่อมั่นส่งบุตรหลานมาเรียนแบบ Onsite
ไม่เช่นนั้น ก็จะยังคงให้บุตรหลานเรียนแบบ On-hand ที่บ้าน โดยครูจัดทำเอกสารหรือใบงานให้กับนักเรียน และเรียนรูปแบบผสมผสานกับ Online
อาทิ ข้อเสนอของผู้ปกครองนักเรียน 1) ให้โรงเรียนมีการตรวจสอบการลาป่วยของนักเรียนและบุคลากรในโรงเรียน หากพบว่าผู้ป่วยมากผิดปกติ ให้รายงานเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่ทราบ 2) ให้มีการคัดกรองไข้และอาการทางเดินหายใจของนักเรียน นักศึกษา ครู และเจ้าหน้าที่ ทุกวันบริเวณทางเข้าสถานศึกษา อาคารเรียน หอพัก พร้อมอุปกรณ์ เช่น เครื่องวัดอุณหภูมิแบบมือถือ หากพบผู้ที่มีอาการป่วยให้หยุดเรียนหรือทำงาน และพาไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลทันที
3) หากพบว่า มีผู้ที่มีไข้จำนวนมากผิดปกติ ให้เจ้าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายในการดูแลการป้องกันควบคุมโรคของสถานศึกษา แจ้งไปยังหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่ 4) ห้องพยาบาลให้มีการบันทึกรายชื่อและอาการของนักเรียนที่ป่วย และมีห้องพยาบาลสำหรับแยกผู้มีอาการป่วยระบบทางเดินหายใจ 5) ตรวจสอบห้องสุขา โรงอาหาร ให้มีอ่างล้างมือให้มีเพียงพอ อยู่ในสภาพดีพร้อมใช้งาน รวมถึงสบู่ล้างมือที่เพียงพอ
6) จัดเตรียมอุปกรณ์ล้างมือ เช่น เจลแอลกอฮอล์ไว้บริเวณทางเข้าห้องเรียน และอาคารต่างๆ ที่มีการใช้งานร่วมกัน 7) จัดสถานที่เพื่อเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล เช่น การเข้าแถว การเข้าคิว การจัดที่นั่งเรียน การจัดที่นั่งรับประทานอาหาร ตามมาตรการ เว้นระยะห่างทางกายภาพ
8) ทำสัญลักษณ์เพื่อเว้นระยะห่างระหว่างบุคคลอย่างน้อย 1-2 เมตร เช่น จุดตรวจวัดไข้ก่อนเข้าโรงเรียน แถวรับอาหารกลางวันจุดล้างมือเป็นต้น 9) จัดตารางเหลื่อมเวลาพักรับประทานอาหารกลางวัน 10) มีมาตรการควบคุมหลัก เช่น คัดกรองวัดไข้อาการเสี่ยง และประวัติเสี่ยง 11) นักเรียน บุคลากร และผู้เข้ามาในสถานศึกษาทุกคนต้องสวมหน้ากากผ้า
12) เปิดประตู หน้าต่างให้อากาศถ่ายเท ทำความสะอาดห้องเรียนและบริเวณต่างๆ 13) ควบคุมจำนวนนักเรียน ลดแออัด เหลื่อมเวลาหรือลดเวลาทำกิจกรรมให้สั้นลง 14) ทำความสะอาดพื้นที่ที่นักเรียนใช้ร่วมกัน ก่อนและหลังใช้งานทุกครั้ง 15) ให้นักเรียนใช้ของใช้ส่วนตัว
16) จัดให้มีการสื่อสารความรู้การป้องกันโรคโควิด-19 แก่ทุกคนในสถานศึกษาอย่างสม่ำเสมอ และ 17) มีมาตรการควบคุมป้องกันโรคสำหรับกรณีมีรถรับ-ส่งนักเรียน
ประธานสมาพันธ์ครูภาคใต้ กล่าวต่อว่า สำหรับข้อเรียกร้องให้ ศธ.และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ช่วยเหลือโรงเรียนต่างๆ ในการดำเนินการตรวจคัดกรองนักเรียน ครู และบุคลากรในสถานศึกษาทุกคนด้วยชุดตรวจ ATK มาตรวจโควิด-19 ก่อนเปิด Onsite ที่โรงเรียนในภาคเรียนที่ 2/2564 ทั้งในเรื่องความชัดเจนในงบประมาณจัดซื้อ และบุคลากรใช้ชุดตรวจ ATK ซึ่งมีกระแสข่าวว่า ทางสาธารณสุขอาจจะให้โรงเรียนในพื้นที่สีแดงเข้มตรวจ ATK สัปดาห์ละ 1 ครั้งนั้น
ทราบว่า ช่วงเวลานี้ทางศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.) และสาธารณสุขจังหวัดในพื้นที่ต่างๆ กำลังลงพื้นที่ตรวจความพร้อมการเปิด Onsite ของโรงเรียนต่างๆ ซึ่งทราบว่าจะมีการให้ข้อสรุปชัดเจนเรื่องการตรวจ ATK ด้วย ดังนั้น ต้องขอขอบคุณล่วงหน้าทั้งทาง ศธ.และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ที่จะลงมาช่วยแก้ปัญหาให้กับโรงเรียนต่างๆ
“โดยเฉพาะการส่งเสริม สนับสนุนให้โรงเรียนต่างๆ สามารถปฏิบัติได้ตามข้อเสนอของผู้ปกครองนักเรียนดังกล่าว เพื่อสร้างความมั่นใจก่อนจะส่งบุตรหลานมาเรียนแบบ Onsite ที่โรงเรียน ซึ่งจะเป็นผลดีอย่างยิ่งต่อพัฒนาการของเด็กระดับประถมศึกษาที่ได้เรียนกับคุณครู” ประธานสมาพันธ์ครูภาคใต้ กล่าว
(โปรดกดถูกใจเพจด้านล่าง เพื่อติดตามข่าวสารบนเว็บไซต์ edunewssiam.com)
