ปธ.ชมรม ผอ.สพท.เสนอ สคคท.ออกประกาศไม่รับรองการหลอมรวมร่าง กม.ศึกษาชาติฉบับบูรณาการ 'รัฐบาล-ปชช.' แนะยกข้ออ้าง 'ถูกรวบหัวรวบหาง-ไม่เป็นตามความต้องการของครูฯ'

จากกรณีมีกลุ่มแกนนำสมัชชาเครือข่ายครูและบุคลากรทางการศึกษาแห่งประเทศไทย (สคคท.) หลายคน (ที่เข้าร่วมประชุมกับคณะกรรมการกฤษฎีกา เพื่อบูรณาการร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติฉบับรัฐบาล ซึ่งเป็นร่างของคณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษา หรือ กอปศ. กับฉบับภาคประชาชน (สคคท.) มีนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการกฤษฎี เป็นประธานในที่ประชุม ซึ่งได้พิจารณาเสร็จสิ้นไปแล้วเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2564 มีทั้งสิ้น 103 มาตรา)

ได้ร่วมกันทำบันทึกข้อห่วงใยภาคประชาชน (สคคท.) เกี่ยวกับร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติฉบับบูรณาการดังกล่าว เผยแพร่ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ระบุว่า อาจจะก่อให้เกิดปัญหาในการบริหารจัดการทางการศึกษาหลายประการ ครูและบุคลากรทางการศึกษาอาจจะขาดขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน และอาจทำให้คุณภาพการศึกษาของประเทศไทยตกต่ำกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบันนั้น

ธนชน มุทาพร

เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2564 นายธนชน มุทาพร ประธานชมรมผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาแห่งประเทศไทย (ชร.ผอ.สพท.) กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ตนอยากเสนอให้ สคคท.ได้ทบทวนการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ เพราะการแสดงเพียงความห่วงใย เป็นการขับเคลื่อนที่เบาเหมือนปุยนุ่น

ตนอยากให้ สคคท.ประกาศชัดเจนออกมาเลยว่า ไม่รับรองการหลอมรวมร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติฉบับรัฐบาลกับฉบับภาคประชาชน (สคคท.) ในครั้งนี้ เพราะถูกรวบหัวรวบหางเองทั้งหมด ไม่เปิดโอกาสให้มีการทบทวน

ไม่รักษาคำพูดที่บอกว่า เมื่อพิจารณาเสร็จจะกลับมาทบทวนอีกรอบ แต่สุดท้ายก็รวบรัดปิดประชุมไป ทั้งที่หาคำนิยามของคำว่า “บุคลากร” ยังไม่ได้

“สำหรับแผนการออกประชาพิจารณ์ของ สคคท. ผมเห็นว่า ผู้แทน สคคท.นั่นแหละจะลงเวทีไม่ได้ ท่านผู้แทน สคคท.ที่ขึ้นนำเสนอจะโดนด่าเละ จะถูกกล่าวหาว่าเป็นเครื่องมือให้ทำลายวิชาชีพครู สคคท.จะทนรับข้อกล่าวหานี้ได้ไหม”

ประธานชมรม ผอ.สพท. กล่าวต่อว่า ส่วนแผนการขอความช่วยเหลือจาก ส.ส.และ สว.สายครูให้ช่วยแก้ไขร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ เมื่อเข้าสู่ขั้นตอนการพิจารณาของรัฐสภานั้น ตนเกรงว่า เมื่อถึงขั้นตอนนี้ก็เหมือนกับอ้อยเข้าปากช้าง แม้ว่า ส.ส.และ สว.สายครูจะช่วยผลักดัน แต่เสียงส่วนใหญ่ในฝ่ายรัฐบาลจะช่วยผลักดันด้วยหรือไม่

ดังนั้น ตนจึงขอเสนอให้ สคคท.พิจารณาทบทวนแผนการขับเคลื่อนเพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ใหม่ โดยให้ สคคท.ออกประกาศไม่เห็นด้วยกับการหลอมรวมครั้งนี้ เพราะไม่ใช่การหลอมรวมที่แท้จริง เนื่องจากประเด็นสำคัญต่างๆ ที่ สคคท.นำเสนอ ไม่ได้รับการพิจารณาเลย ทั้งที่เป็นไปตามข้อเรียกร้องและความต้องการของครูและบุคลากรทางการศึกษามาโดยตลอด

(โปรดกดถูกใจเพจด้านล่าง เพื่อติดตามข่าวสารบนเว็บไซต์ edunewssiam.com)