6 องค์กรครูฯรวมพลังต้านร่าง กม.การศึกษาชาติฉบับผ่านกฤษฎีกา

นายธนชน มุทาพร ประธานชมรมผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาแห่งประเทศไทย (ชร.ผอ.สพท.) ในนามเครือข่ายองค์กรวิชาชีพครูไทย เปิดเผยว่า รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพุทธศักราช 2560 มาตรา 42 และมาตรา 43 มีบทบัญญัติว่า บุคคลย่อมมีเสรีภาพในการรวมกันเป็นสมาคม สหกรณ์ สหภาพ องค์กรหรือหมู่คณะอื่น และมีสิทธิเข้าชื่อกันเพื่อเสนอแนะต่อหน่วยงานของรัฐให้ดำเนินการใดๆ อันจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนหรือชุมชน

ดังนั้น ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาทั่วประเทศ ประกอบด้วย ครู บุคลากรทางการศึกษา ผู้อำนวยการสถานศึกษา ผู้บริหารการศึกษา ในฐานะที่มีบทบาทหน้าที่เกี่ยวข้องโดยตรงในการจัดการศึกษาของชาติ จึงได้รวมตัวกันเป็นองค์กรของเครือข่ายผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาโดยใช้ชื่อว่า "เครือข่ายองค์กรวิชาชีพครูไทย" หรือ ค.อ.ท.

ประกอบด้วยสมาคมนักบริหารการศึกษาขั้นพื้นฐานแห่งประเทศไทย (สบพท.), สมาคมผู้บริหารโรงเรียนมัธยมศึกษาแห่งประเทศไทย (ส.บ.ม.ท.), สมาคมผู้บริหารเขตพื้นที่การศึกษาแห่งประเทศไทย (สบ.พท.), สมาพันธ์สมาคมครูแห่งประเทศไทย (ส.ค.ท.), สหภาพครูแห่งชาติ (ส.ค.ช.), ชมรมผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาแห่งประเทศไทย (ช.ผอ.สพท.)

โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะมีส่วนร่วมในการปฏิรูปการศึกษา พัฒนาเด็กไทยให้มีทักษะที่จำเป็นของศตวรรษที่ 21 เพื่อนำพาประเทศไทยให้ก้าวพ้นวิกฤตด้านต่างๆ ให้ได้ในอนาคต โดยใช้พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติเป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนการศึกษาของชาติ

ดังนั้น ร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติฉบับที่กำลังจะเสนอเข้าสู่การพิจารณาเพื่อตราเป็นกฎหมายในรัฐสภา จะต้องเปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายได้มีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นต่อสาระบัญญัติที่จะเป็นประโยชน์ต่อการปฏิรูปการศึกษาของชาติ

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดคณะกรรมการกฤษฎีกาชุดพิเศษ และเครือข่ายภาคประชาชน (สมัชชาเครือข่ายครูและบุคลากรทางการศึกษาแห่งประเทศไทย หรือ สคคท.) ได้จัดประชุมทำร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติเสร็จแล้ว อยู่ระหว่างการส่งให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเห็นชอบ และบรรจุเข้าสู่การพิจาณณาของรัฐสภาต่อไป

โดยที่ประชุมดังกล่าวไม่ได้รับฟังข้อคิดเห็นของครูและบุคลากรทางการศึกษาทั่วประเทศแต่อย่างใด ในนามของเครือข่ายองค์กรวิชาชีพครูไทย (ค.อ.ท.) จึงไม่เห็นด้วยกับร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติดักล่าว และได้รวมพลังกันเพื่อคัดค้านจนถึงที่สุด จนกว่าร่างสาระบัญญัติจะได้รับการแก้ไขให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของครูและบุคลากรทางการศึกษาทั่วประเทศต่อไป

"เครือข่ายองค์กรวิชาชีพครูไทยจะทำหน้าที่เป็นองค์กรกลางในการรวมบรวมความคิดเห็นของทุกภาคส่วนในสังคม โดยเฉพาะครูและบุคลากรทางการศึกษาทั่วประเทศ เสนอต่อผู้มีอำนาจในการดำเนินการตรากฎหมายดังกล่าวต่อไป" นายธนชน ในนามเครือข่ายองค์กรวิชาชีพครูไทย กล่าว

 

(โปรดกดถูกใจเพจด้านล่าง เพื่อติดตามข่าวสารบนเว็บไซต์ edunewssiam.com)