กสศ.โชว์ผลงานทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูง สานโอกาสเด็ก ม.3-ม.6-ปวช.

กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) จัดการประชุมปัจฉิมนิเทศ สร้างคน สร้างโอกาส สร้างงาน กับทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูง สำหรับนักศึกษาทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูง เมื่อเร็วๆ นี้

โดย น.ส.วลัยรัตน์ ศรีอรุณ รองประธานกรรมการบริหาร กสศ. กล่าวว่า ครั้งนี้เป็นการจัดประชุมผ่านรูปแบบ Online และ onsite จำนวน 5 พื้นที่ คือเวทีจังหวัดกรุงเทพมหานคร (เวทีกลาง) เวทีจังหวัดเชียงใหม่ เวทีจังหวัดสงขลา เวทีจังหวัดนครราชสีมา และเวทีจังหวัดชลบุรี

มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพของนักศึกษาทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูงที่จะสำเร็จการศึกษากว่า 1,106 คน ครู อาจารย์ และผู้บริหารจากสถานศึกษาสายอาชีพ จำนวน 32 สถาบัน ว่าที่นายจ้าง สถานประกอบการและผู้ทรงคุณวุฒิ และนักวิชาการ กสศ.

ด้านนายสุภกร บัวสาย ผู้จัดการกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) กล่าวว่า ขอขอบคุณผู้บริหาร ครู และอาจารย์สถานศึกษาสายอาชีพจาก 32 แห่งทั่วประเทศ ที่ทุ่มเทในการบ่มเพาะ ดูแลและพัฒนาทักษะผ่านการจัดการเรียนการสอนที่มุ่งให้นักศึกษาเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถในสาขากว่า 41 สาขา

สุภกร บัวสาย

ซึ่งเป็นสาขาที่จะตอบโจทย์การพัฒนาประเทศตาม 10 อุตสาหกรรม S Curve และ New S Curve สาขา STEM (วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี) รวมถึงเทคโนโลยีดิจิทัลที่เป็นเป้าหมายตามนโยบายรัฐบาล และความต้องการตลาดแรงงานในท้องถิ่น

ทำให้มีนักศึกษาทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูงระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) ที่สำเร็จการศึกษาจำนวนทั้งหมด 1,106 คน แบ่งเป็นชาย 571 คน หญิง 531 คน โดยแบ่งเป็นนักศึกษาทุนในภาคเหนือ 255 คน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 226 คน ภาคกลาง 281 คน ภาคตะวันออก 165 คน และภาคใต้ 179 คน

ทั้งนี้ ภาพรวมทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูงของ กสศ. ได้สร้างโอกาสทางการศึกษาให้แก่นักเรียนชั้น ม.3, ม.6, ปวช.หรือเทียบเท่า ทุนสะสม 3 รุ่น รวมจำนวนประมาณ 7,265 คน เข้าศึกษาในสถานศึกษาสายอาชีพทั้งภาครัฐและเอกชน 98 แห่ง กระจายใน 44 จังหวัดทั่วทุกภูมิภาค

“ในลักษณะโครงการที่เป็นพันธมิตรกับหน่วยงานต้นสังกัดทุกสังกัด ทั้งสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) สถานศึกษาอาชีวศึกษารัฐ เอกชน วิทยาลัยชุมชน และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ร.ร.จิตรลดาวิชาชีพ

นายสุภกรกล่าวต่อว่า จากการทำงานของ กสศ. ได้ตั้งเป้าความสำเร็จไว้ 3 ก้าว วันนี้เป็นความสำเร็จก้าวที่หนึ่ง คือ “โอกาส” จากสองปีก่อนที่เด็กบางคนไม่เหลือความหวังและแทบไม่ได้เรียนต่อ ตอนนี้มีผู้สำเร็จระดับ ปวส.จำนวน 1,106 คน นั่นคือก้าวแรกที่ได้รับโอกาสจาก กสศ.ให้เรียนสูงขึ้น

แม้จำนวน 1,106 คน อาจมองว่ามาก แต่ยังมีเด็กที่เกิดในปีเดียวกันและมีฐานะยากลำบากประมาณ 1 แสนคน แต่ กสศ.ให้โอกาสได้เพียง 1,106 คน หรือ 1% เท่านั้น

ก้าวที่สองคือ การมีงานทำโดยตั้งใจว่า ปี พ..2570 นักศึกษาทุนทุกคนจะกลับมารวมตัวกันอีกครั้งอย่าหายไป ซึ่ง กสศ.​ได้เตรียมเว็บไซต์ หนังสือรุ่นสมัยใหม่ที่อัพเดทได้ทุกวัน ใครไปทำอะไร มีกิจกรรมอะไรอยากเล่าสามารถเข้ามาเขียนในเว็บไซต์ได้ ทุกคนก็จะเห็นเพื่อนทั้งพันกว่าคนได้มาอัปเดทชีวิต ​

“ก้าวที่สามคือ อยากเห็นผลผลิตของเราเปลี่ยนชีวิตจากรุ่นเราที่เติบโตมาอย่างยากลำบาก เมื่อต่อไปมีครอบครัวก็อยากให้ครอบครัวสลัดหลุดพ้นจากความยากลำบาก ซึ่งแม้จะเริ่มจาก 1,106 คน ก็จะเป็นเครื่องพิสูจน์ให้เห็นว่าโอกาสทางการศึกษาทำให้ความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาลดลง และทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของครอบครัวดีขึ้น ซึ่งน้องๆ ที่จบการศึกษาในวันนี้เป็นก้าวแรกของความสำเร็จ และไม่ใช่เฉพาะความสำเร็จเฉพาะตัว ซึ่งจะนำไปสู่ก้าวที่สอง ก้าวที่สามต่อไป

ผู้จัดการกองทุน กสศ.กล่าวอีกว่า ทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูงมีประมาณปีละ 2,500 ทุน แบ่งเป็นสองส่วนคือ ส่วนที่ จบ ม.3 และเรียนต่อ ปวช. และ ปวช.เรียนต่อ ปวส.​อีก 2 ปี ซึ่งรุ่นนี้เป็นรุ่นแรกที่จบการศึกษาในส่วนที่เรียนต่อ 2 ปี จึงมีผู้ที่จบการศึกษาประมาณ 1,106 คน โดยคนที่จบการศึกษามีผลการเรียนดี เกรดเฉลี่ย 3.00 ขึ้นไปมากถึง 67% ซึ่งเป็นเครื่องพิสูจน์สิ่งที่ กสศ.กำลังทำว่า ประสบความสำเร็จ

ถ้าครบ 5 ปี ก็จะมีนักศึกษาที่ทยอยจบการศึกษาปีละประมาณ 2,500 ทุน โดยทุนนี้อาจจะเรียกว่าเป็นทุนที่ทำงาน 2 ส่วน ส่วนที่ 1 คือให้ทุนการศึกษากับนักเรียนที่ครอบคลุมค่าเรียน ค่าใช้จ่ายในการเรียน ค่าใช้จ่ายรายเดือน

และส่วนที่ 2 คือ วิเคราะห์ตลาดแรงงานอาชีพว่า สาขาไหนที่มีโอกาสตกงานก็จะไม่ให้ทุนในสาขานั้น หรือสาขาอาชีพที่ตลาดต้องการ แต่คุณภาพการเรียนการสอนยังไม่ถึง ก็ต้องชวนทางสถาบันการศึกษามาร่วมคิดว่า จะช่วยกันพัฒนาอย่างไร ซึ่งในแต่ละปีจะมีสถาบันการศึกษาเสนอแนวคิดมาเป็นจำนวนมาก แต่ด้วยงบประมาณที่มีจำกัด ทำให้แต่ละปีกองทุน กสศ.จะทำงานร่วมกับสถาบันการศึกษาได้ประมาณ 30 สถาบันเท่านั้น

อนึ่ง กิจกรรมในพื้นที่ 5 จังหวัด 5 เวทีครั้งนี้ ยังได้มีการจัดแสดงนิทรรศการผลงานของนักศึกษาทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูงรวมแล้วกว่า 135 ผลงาน อาทิ ผลงานหุ่นยนต์เคลื่อนย้ายวัตถุ วิทยาลัยเทคนิคสิงห์บุรี ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 เหรียญเงิน จากการแข่งขันฝีมือแรงงานแห่งชาติ ระดับภาคกลาง ปี พ.ศ.2563

ผลงานรถบรรทุกดั้มขนาดเล็กเอนกประสงค์ วิทยาลัยชุมชนอุทัยธานี ดำเนินการภายใต้แนวคิดการลดต้นทุนทางการเกษตรและช่วยเหลือเกษตรกรให้สามารถเข้าถึงรถบรรทุกในการใช้งานต่างๆ ได้  เป็นต้น

 

(โปรดกดถูกใจเพจด้านล่าง เพื่อติดตามข่าวสารบนเว็บไซต์ edunewssiam.com)