อรรถพล ตรึกตอง
เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2564 นายอรรถพล ตรึกตอง เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (กช.) กระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่า ตนได้รับข้อสั่งการจาก น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) และนางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการ ศธ. ให้ตรวจสอบเรื่องประชาชนร้องเรียนโรงเรียนอนุบาลเอกชนแห่งหนึ่งย่าน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ได้สร้างความเดือดร้อนรำคาญ
สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) ได้ตรวจสอบพบข้อเท็จจริงเบื้องต้นว่า จริงๆ แล้วโรงเรียนอนุบาลเอกชนแห่งดังกล่าวในย่าน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี เป็นแฟรนไชส์ของ “โรงเรียนสร้างเสริมทักษะภาษาอังกฤษแอมโกร์วอิง” ที่มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ จ.อุบลราชธานี ซึ่งได้ขอจัดตั้งเป็นโรงเรียนเอกชนนอกระบบตามระเบียบอย่างถูกต้อง มีรูปแบบเป็นโรงเรียนกวดวิชาสร้างเสริมทักษะภาษาอังกฤษ แต่แอบอ้างใช้ชื่อเป็นโรงเรียนอนุบาล และมีการขายแฟรนไชส์ไปทั่วประเทศ
สช.ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเชิงลึกพบว่า โรงเรียนกวดวิชานอกระบบแห่งนี้มีการโฆษณาผ่านสื่อโทรทัศน์และโซเชียล ขายแฟรนไชส์ในการลงทุนราคา 390,000 บาท ให้สิทธิ์ 1 อำเภอ 1 สาขา มีการคิดหลักสูตรขึ้นมาเอง สอนภาษาอังกฤษเด็กที่มีอายุระหว่าง 4-12 ปี แบ่งเป็น หลักสูตรเริ่มต้น ABC อายุ 5-6 ปี หลักสูตรละ 2,900 บาท หรือ Kinder Club หลักสูตรละ 1,500 บาท โดยมีการโฆษณาอวดอ้างมาแล้ว 6 ปี และสร้างแฟรนไชส์ไปแล้ว 38 แห่ง ใน 31 จังหวัด ได้แก่ แฟรนไชส์ใน จ.เชียงใหม่ เชียงราย ขอนแก่น ชลบุรี
ชัยนาท ชัยภูมิ ชุมพร นครปฐม นครราชสีมา นครศรีธรรมราช นนทบุรี ปทุมธานี ประจวบคีรีขันธ์ ปราจีนบุรี พระนครศรีอยุธยา พิษณุโลก มหาสารคาม ยโสธร ร้อยเอ็ด ระยอง ราชบุรี ลพบุรี ศรีสะเกษ สกลนคร สงขลา สระบุรี สุพรรณบุรี สุรินทร์ หนองบัวลำภู อุดรธานี และอุบลราชธานี
ถือว่าเข้าข่ายหลอกลวงผู้บริโภค สช.ต้องดำเนินการตามกฎหมาย เพราะโรงเรียนเฟรนไชส์ดังกล่าวไม่ได้มีการยื่นขอจัดตั้งเป็นโรงเรียนเอกชนนอกระบบ มีความผิดตาม พ.ร.บ.โรงเรียนเอกชน พ.ศ.2550 มาตรา 120 การจัดโรงเรียนเอกชนนอกระบบต้องได้รับอนุญาตจากผู้อนุญาต, มาตรา 147 ผู้ใดจัดตั้งโรงเรียนนอกระบบโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามมาตรา 120 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปีหรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ดังนั้น สช.จึงได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ไปแจ้งความดำเนินคดีกับโรงเรียนเฟรนไชส์ย่าน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ที่สถานีตำรวจภูธรอำเภอบางใหญ่เรียบร้อยแล้ว พร้อมทั้งแจ้งให้ศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.) 31 จังหวัด ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีที่สถานีตำรวจในพื้นที่รับผิดชอบที่มีการจัดตั้งโรงเรียนเอกชนนอกระบบโดยไม่ได้รับอนุญาตให้จัดตั้ง ภายใน 7 วันด้วย
อีกทั้ง สช.ยังดำเนินการแจ้งกรมสรรพากรตรวจสอบการชำระภาษี แจ้งสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) ให้ตรวจสอบครูผู้สอนชาวต่างชาติ แจ้งกรมการจัดหางานให้ตรวจสอบ Work Permit ของครูผู้สอนชาวต่างชาติ
"ถือได้ว่า สช.ตรวจพบโรงเรียนเอกชนเถื่อนล็อตใหญ่ ดังนั้น ขอฝากถึงประชาชนหากจะซื้อแฟรนไชส์โรงเรียนเอกชน ให้ตรวจสอบข้อมูลการอนุญาตจัดตั้งจากเว็บไซต์ สช.ก่อน เพราะไม่เช่นนั้นจะเข้าข่ายทำผิดกฎหมายได้" นายอรรถพล กล่าว
(โปรดกดถูกใจเพจด้านล่าง เพื่อติดตามข่าวสารบนเว็บไซต์ edunewssiam.com)
