ตัวแทนกลุ่มสมัชชาเครือข่ายครูและบุคลากรทางการศึกษา (สคคท.) ได้ส่งข้อเขียนชี้แจงเรื่องเกี่ยวกับ “ความก้าวหน้าการขับเคลื่อนร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ” มาถึง สำนักข่าวการศึกษาออนไลน์ EdunewsSiam.com เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2564 เพื่อให้ช่วยเผยแพร่สู่สาธารณะ โดยเฉพาะในแวดวงครูและบุคลากรทางการศึกษาทั่วประเทศ ดังใจความต่อไปนี้
“ในที่สุดการเดินทางของคณะกรรมการขับเคลื่อนเพื่อการปฏิรูปการศึกษา ซึ่งมีท่าน รองฯศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 เป็นประธานคณะกรรมการ พร้อมด้วย ท่าน ส.ส.ชินวรณ์ บุณยเกียรติ รองประธาน, ท่าน ส.ส.เกษม ศุภรานนท์, ท่าน ส.ส.ปรีดา บุญเพลิง, ท่าน ส.ส.สฤษดิ์ บุตรเนียร ฯลฯ ร่วมกับสมัชชาเครือข่ายครูและบุคลากรทางการศึกษา (สคคท.) ในนาม "ภาคประชาชน" ผู้เสนอกฎหมาย โดยการนำของท่านประธาน สคคท. อาจารย์ ดร.ดิเรก พรสีมา, ท่าน ดร.นิวัตร นาคะเวช, ท่านกมลเทพ จันทรจิต, ผอ.สิรภพ เพ็ชรเกตุ, ผอ.เรือน สิงห์โสภา
โดยมีท่านประชัน จันระวังยศ และท่านดร.วิสิทธิ์ ใจเถิง เป็นผู้ประสานงานทั้งสิบทิศ ทั้งภาคการเมือง ภาคราชการที่เกี่ยวข้องกับการร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติฉบับนี้ อย่างเต็มสรรพกำลังที่มี จนได้ในสิ่งที่พี่น้องเพื่อนครูปรารถนาและต้องการ
คณะกรรมการทำงานอย่างหนักในการให้ข้อมูลทั้งหลักการและเหตุผล พร้อมทั้งชี้แจงถึงผลกระทบต่อการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของประเทศ และของผู้เรียนและผู้มีส่วนร่วมได้เสียกับ พ.ร.บ.ฉบับนี้ ถ้าไม่ได้รับการแก้ไข
คณะทำงานมีความเชื่อว่า การเข้าชี้แจงแสดงเหตุผล การสร้างความเข้าใจถึงเหตุและผลต่อผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ตั้งแต่นายกรัฐมนตรีและคณะ เมื่อวันวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2564 ต่อมาเข้าเป็นคณะกรรมการร่วมกับกฤษฎีกาเพื่อพิจารณาหลอมรวมระหว่างร่างของภาคประชาชนกับร่างของรัฐบาล แล้วเสร็จเมื่อวันที่ 28 เมษายน 2564 แต่ก็ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ เกิดความสับสนวุ่นวายขึ้นใหม่
พวกเราคณะทำงานภาคประชาชน ก็รู้สึกเจ็บปวดไม่แพ้พี่น้องเพื่อนครูที่ผลออกมาอย่างนั้น! ทั้งๆ ที่เราพยายามเต็มที่แล้ว จึงนำความจริงที่เกิดขึ้นไปนำเรียนปรึกษากับท่านศุภชัย โพธิ์สุ และคณะทำงานของท่าน ซึ่งท่านก็ยินดีที่จะเดินงานต่อในการขอแก้ไข "คำสำคัญ" จึงทำหนังสือขอเข้าพบนายกรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง
แต่เมื่อพิจารณาแล้วเห็นว่า ท่านนายกฯมีภาระงานมากในช่วงนี้ โดยเฉพาะสถานการณ์โควิด-19 อยู่ในขณะนี้ ท่านรองฯศุภชัยจึงเห็นว่าบุคคลที่พวกเราน่าจะพบมากที่สุดในเวลานี้คือ "ท่านวิษณุ เครืองาม" รองนายกรัฐมนตรี ที่ดูแลกระทรวงศึกษาธิการ ท่านรองฯศุภชัยจึงโทรศัพท์เพื่อนัดหมายขอเข้าพบ และเป็นความโชคดีของพวกเราครับ ท่านให้เข้าพบในวันที่ 24 พ.ค.2564 เวลา 13.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล
วันนั้นท่านรองฯวิษณุ เครืองาม ได้นัดหมายผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายเข้าร่วมประชุม อาทิเช่น ท่านตรีนุช เทียนทอง รมว.ศธ., ท่านเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วย
ในการประชุมพิจารณาในวันนั้น ท่านรองฯวิษณุ ซึ่งเป็นประธานการประชุม ให้ชี้แจงหลักการและเหตุผลที่ร่าง พ.ร.บ.นี้ยังไม่เป็นที่ยอมรับ นำโดยท่านรองฯศุภชัย โพธิ์สุ เป็นผู้นำในการนำเสนอ พร้อมด้วยท่าน ส.ส.ชินวรณ์ บุณยเกียรติ, ท่าน ส.ส.เกษม ศุภรานนท์, ท่าน ส.ส.สฤษดิ์ บุตรเนียร และท่าน ดร.ดิเรก พรสีมา
หลังจากนั้น ท่านรองเลขาธิการกฤษฎีกานำเสนอข้อขัดข้องต่างๆ ที่ไม่สามารถให้ได้ ซึ่งช่วงนี้ท่านรองฯศุภชัย เป็นผู้เสนอเหตุผลโต้แย้ง เพื่อชี้ให้เห็นว่ามีผลดีและเสียอย่างไร? จนในที่สุดของการพิจารณาท่านรองฯวิษณุเป็นผู้นำสรุปผลการประชุมและให้กฤษฎีกาไปแก้ไขคำสำคัญดังนี้
1.ให้ใช้ใบอนุญาตการประกอบวิชาชีพครู เหมือนเดิม
2.ให้วิชาชีพครูเป็นวิชาชีพขั้นสูง และเป็นวิชาชีพควบคุม
3.ให้เปลี่ยนตำแหน่งเป็นผู้บริหารสถานศึกษา
4.ให้ปรับปรุงโครงสร้างเพื่อรองรับการกระจายอำนาจ
โดยท่านรองนายกรัฐมนตรีให้กฤษฎีกาไปทำการแก้ไขให้เป็นตามนี้ ที่ประชุมมีมติรับทราบ และเลิกประชุมเวลา 17.49 น.
และเมื่อวันที่ 27 พ.ค.2564 เวลาประมาณ 18.00 น. ท่านประชัน จันระวังยศ ได้แจ้งข่าวดีว่า ร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเสร็จแล้ว พร้อมที่จะนำเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายในอาทิตย์หน้านี้ ดังร่างที่แก้ไขด้านล่างนี้ครับ
คณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษา และคณะกรรมการ สคคท.ในนามภาคประชาชน ขอขอบคุณในข้อมูลต่างๆ ข้อกังวลต่างๆ จากองค์กรครูทุกองค์กร โดยเฉพาะสมาพันธ์สมาคมครูแห่งประเทศไทย (สคท.) และเครือข่ายองค์กรวิชาชีพครูไทย (ค.อ.ท) ท่านผู้นำองค์กรครูทุกท่าน ทุกชมรม ทุกสมาคมที่ดำเนินกิจกรรมด้านการศึกษา
ขอคารวะต่อทุกท่านในความเชื่อมั่นต่อวิชาชีพครูต้องอยู่คู่กับสังคมไทยตลอดไปครับ”
คณะกรรมการขับเคลื่อนเพื่อการปฏิรูปการศึกษา
สมัชชาเครือข่ายครูและบุคลากรทางการศึกษา (สคคท.)
29 พฤษภาคม 2564
(โปรดกดถูกใจเพจด้านล่าง เพื่อติดตามข่าวสารบนเว็บไซต์ edunewssiam.com)
