วันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขอถวายพระพรชัยมงคล “ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน”

"เราจะสืบสาน รักษา และต่อยอด และครองแผ่นดินโดยธรรมเพื่อประโยชน์สุขแห่งอาณาราษฎรตลอดไป"

พระปฐมบรมราชโองการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2562

วันที่ 28 กรกฎาคม ของทุกปีเป็นวันสำคัญอย่างยิ่งเป็นวันมิ่งมหามงคลของปวงพสกนิกรชาวไทยด้วยเป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษา ของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทร มหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว  ที่เวียนมาบรรจบอีกครั้งปีพศ.2564

พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวเป็นพระมหากษัตริย์ไทยรัชกาลที่ 10 แห่งราชวงศ์จักรี เสด็จขึ้นทรงราชย์เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2559 ตราบจนปัจจุบัน

          พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระบรมราชสมภพวันจันทร์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2495 เวลา 17 นาฬิกา 45 นาที ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต เป็นพระราชโอรสเพียงพระองค์เดียว ในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 

พระนามเมื่อแรกประสูติว่า สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าวชิราลงกรณ บรมจักรยาดิศรสันตติวงศ เทเวศรธำรงสุบริบาล อภิคุณูประการมหิตลาดุลเดช ภูมิพลนเรศวรางกูร กิตติสิริสมบูรณ์สวางควัฒน์ บรมขัตติยราชกุมาร

ขณะเมื่อทรงพระราชสมภพนั้น  ประชาชนชาวไทยทั้งประเทศที่เฝ้ารอคอยพระประสูติกาลต่างปลาบปลื้มปีติ ชื่นชมโสมนัส แซ่ซ้องในพระบุญญาธิการ ดังที่ ศาสตราจารย์หม่อมราชวงศ์สุมนชาติ สวัสดิกุล ได้บรรยายถึงบรรยากาศก่อนเวลาเสด็จพระราชสมภพ ตราบจนถึงนาทีอันเป็นมงคลฤกษ์ว่า  “…วันนี้ ครึ้มฟ้าครึ้มฝนตั้งแต่เช้า  ฝนไม่ได้ตกมานาน  นายแพทย์ผู้ถวายการประสูติเข้าประจำที่สักครู่ก็ประสูติพระราชกุมาร เวลา 17 นาฬิกา กับ 45 นาที ในนาทีเดียวกันนั้นเอง ฝนที่แล้งมาตลอดฤดูก็เริ่มโปรยปรายละอองลงมา ดูคล้ายๆ ฟ้าก็รู้เห็นเป็นใจกับการประสูติครั้งนี้  อารามดีใจสมประสงค์ของดวงใจทุกๆ ดวง  นายแพทย์ที่ถวายการประสูติ  ซึ่งพร้อมที่จะบอกแก่ที่ประชุม ณ พระที่นั่งอัมพรสถานว่า พระราชโอรส หรือ พระราชธิดา กล่าวออกมาด้วยเสียงอันตื่นเต้นกังวานว่า ผู้ชาย แทนที่จะว่า พระราชโอรส ฝนโปรยอยู่ตลอดเวลา แตรสังข์ดุริยางค์เริ่มประโคม ทหารบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมีปืนใหญ่ทั้งบกและเรือยิงสะเทือนเลื่อนลั่น เสียงไชโยโห่ร้องก็ดังอยู่สนั่นหวั่นไหว สมใจประชาชนแล้วดวงใจทุกดวงมีความสุข…” 

นับแต่นั้นมา ประชาชนชาวไทยต่างเฝ้าติดตามข่าวเกี่ยวกับสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าวชิราลงกรณฯ ด้วยความจงรักภักดี และต่างปลาบปลื้มปีติ ชื่นชมโสมนัสยิ่งขึ้นเมื่อพระองค์ทรงเจริญพระชันษา มีพระสุขภาพพลานามัยแข็งแรง เพียบพร้อมด้วยพระราชจริยวัตรและพระปรีชาสามารถเป็นที่ประจักษ์ตลอดมา

           วันที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2515 ปวงชนชาวไทยต่างปลาบปลื้มปีติยินดีเป็นอย่างยิ่งอีกครั้งหนึ่ง เมื่อพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้มีพระบรมราชโองการประกาศสถาปนา สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าวชิราลงกรณฯ ขึ้นทรงดำรงพระอิสริยยศ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร มีพระนามาภิไธย ตามจารึกพระสุพรรณบัฎว่า

 สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร สิริกิตยสมบูรณสวางควัฒน์ วรขัตติยราชสันตติวงศ์ มหิตลพงศอดุลยเดช จักรีนเรศยุพราชวิสุทธิ สยามมกุฎราชกุมาร

ในมงคลวาระนั้น สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ได้ถวายสัตย์ปฏิญาณในการพิธีถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยา ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ซึ่งแสดงถึงน้ำพระราชหฤทัยที่ทรงมุ่งมั่นจะบำเพ็ญพระราชกรณียกิจเพื่อชาติบ้านเมือง และประชาชนชาวไทย เป็นที่ซาบซึ้งประทับใจพสกนิกรยิ่ง ดังความว่า

ข้าพระพุทธเจ้าขอพระราชทานกระทำสัตย์ปฏิญาณสาบานต่อประเทศชาติและประชาชนชาวไทยเฉพาะพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เฉพาะพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร ท่ามกลางสันนิบาตนี้ว่า ข้าพเจ้าผู้เป็น สยามมกุฎราชกุมาร จะรักษาเกียรติยศและอิสริยศักดิ์ ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานไว้ด้วยชีวิต จะภักดีต่อชาติบ้านเมือง จะซื่อสัตย์ต่อประชาชน จะปฏิบัติภาระหน้าที่ทุกอย่าง โดยเต็มกำลังสติปัญญาความสามารถ และโดยความเสียสละ เพื่อความเจริญสงบสุขและความมั่นคงไพบูลย์ของประเทศไทย จนตราบเท่าชีวิตร่างกายจะหาไม่

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงได้รับการศึกษาระดับอนุบาลศึกษาที่พระที่นั่งอุดรภาค พระราชวังดุสิต และทรงเข้ารับการศึกษาระดับประถมศึกษาและระดับมัธยมศึกษา โรงเรียนจิตรลดา ระหว่าง พ.ศ. 2499-2505 ทรงศึกษาที่ประเทศอังกฤษระหว่าง พ.ศ. 2509-2513 หลังจากนั้นได้ทรงศึกษาระดับเตรียมทหารที่โรงเรียนคิงส์ นครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลียฯลฯ

          กาลเวลาผ่านไปได้เป็นที่ประจักษ์ว่า  ตลอดระยะเวลานับแต่ยังทรงพระเยาว์ตราบจนปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงยึดมั่นในพระปฏิญญา ทรงพระวิริยอุตสาหะ มุ่งมั่นปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานัปการ เพื่อประเทศชาติและประชาชนชาวไทย โดยมิได้ย่อท้อ ด้วยพระราชปณิธานทรงเจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาท พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช  บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงในการทรงบำบัดทุกข์บำรุงสุขแก่อาณาประชาราษฎร์  

ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจทุกด้านเอาพระราชหฤทัยใส่ทุกด้านที่เกี่ยวโยงกับความอยู่ดีมีสุขของราษฎร ที่ก่อให้เกิดความสงบร่มเย็นเป็นสุขเจริญงอกงามเป็นกำลังพัฒนาประเทศชาติ  ทรงเอาพระราชหฤทัยใส่ทั้งด้านการทหาร การศาสนา ศิลปวัฒนธรรม การเกษตรการประกอบอาชีพความเป็นอยู่ของคนไทย ไปจนถึงการสาธารณสุขของราษฎรทั้งประเทศ

ในด้านการแพทย์และการสาธารณสุขนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงให้ความสำคัญมาอย่างต่อเนื่องด้วยทรงตระหนักว่า สุขภาพพลานามัยอันดีของประชาชนเป็นปัจจัยสำคัญของการสร้างสรรค์ทรัพยากรบุคคลอันมีคุณภาพไว้เป็นพลังในการพัฒนาครอบครัว ชุมชนพัฒนาประเทศ จึงสนพระราชหฤทัยในการประกอบพระราชกรณียกิจด้านการแพทย์และสาธารณสุข เช่น เมื่อรัฐบาลได้น้อมเกล้าฯ ถวายโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช เนื่องในพระราชพิธีอภิเษกสมรสจำนวน 21 แห่ง ที่ตั้งอยู่ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ พระองค์ก็ได้ทรงพระวิริยะอุตสาหะเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมโรงพยาบาลสม่ำเสมอ พระราชทานพระราชทรัพย์สนับสนุนให้มีอุปกรณ์การแพทย์ เครื่องมือเครื่องใช้ที่ทันสมัยเพื่อสามารถให้บริการที่ดีแก่ประชาชนและเมื่อ พ.ศ. 2537 ทรงรับเป็นประธานกรรมการอำนวยการจัดสร้างอาคารศูนย์โรคหัวใจ สมเด็จพระบรมราชินีนาถ เป็นต้น

โดยเฉพาะช่วงตั้งแต่ช่วงปลายปี 2563 จนถึงวันนี้ทั่วโลกประสบวิกฤตโรคไวรัสโคโรน่า2019หรือ (โรคโควิด-19) ประเทศไทยก็ได้รับผลพวงโรคดังกล่าวแพร่ระบาดและโรคไวรัสโควิด-19ในไทยเราระบาดหนักยิ่งขึ้นตั้งแต่เดือนเมษายน 2564จนถึงวันนี้ที่หนักหนาสาหัสสากรรจ์ระบาดทั่วหน้าทุกจังหวัด ที่ระบาดหนักมีจำนวนคนติดเชื้อเพิ่มทุกวัน เสียชีวิตเพิ่มทุกวันหนักสุด 13-15 จังหวัดในวันนี้ จนรัฐบาลประกาศล็อกดาวน์ ก่อความทุกข์ความเดือดร้อนแก่คนไทยส่วนใหญ่ทุกด้านทั้งเศรษฐกิจเพราะต้องปิดสถานประกอบการตั้งแต่เล็กไปจนถึงใหญ่ คนตกงาน ไม่มีรายได้ ด้านสังคมไม่สามารถไปมาพบปะกันได้อย่างสะดวกแม้แต่การอยู่ร่วมกันในบ้านก็ต้องระมัดระวังเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดรับเชื้อโควิดฯลฯ

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงติดตามสถานการณ์ความทุกข์ความเดือดร้อนของราษฎรเกี่ยวกับวิกฤติโควิดตลอดทรงห่วงใยประชาชนของพระองค์อย่างที่สุด ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานความช่วยเหลือเครื่องมือแพทย์ด้วยทรงห่วงใยบุคลากรทางการแพทย์ และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่ปฏิบัติงานในการดูแลและรักษาพยาบาลผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19อย่างเสียสละโดยแทบมิได้มีเวลาเป็นของตนเองมายาวนานพร้อมๆกับต้องป้องกันตัวเองมิให้ติดเชื้อไปด้วย จึงพระราชทานเครื่องมือแพทย์และอุปกรณ์ทางการแพทย์ รวมทั้งสิ่งของพระราชทาน อย่างต่อเนื่องมาโดยตลอดเพื่อช่วยป้องกันบุคลากรทางการแพทย์การสาธารณสุขและเป็นขวัญกำลังใจให้สามารถมีกำลังดูแลสุขภาพและชีวิตของคนไทยทุกคน

 ได้พระราชทานพระราชทรัพย์จัดหาเครื่องอุปกรณ์ทางการแพทย์พระราชทานอย่างเช่นเครื่องช่วยหายใจชนิดอัตราไหลสูง hi flow nasal cannula ( HFNC)  NeoHif - i7  พระราชทานรถชีวนิรภัยพระราชทาน

 พระราชทานเครื่องเอกซเรย์เคลื่อนที่ เครื่องเอกซเรย์แบบเคลื่อนที่ (Portable X ray Digital) พร้อมระบบ Ai  พร้อมอุปกรณ์ป้องกันการแพร่เชื้อแก่บุคลากรทางการแพทย์การสาธารณสุขเพื่อรับมือสถานการณ์โควิด-19 ผ่านโรงพยาบาลต่างๆทั่วประเทศเพื่อความสะดวกความพร้อมในการดูแลรักษาสุขภาพประชาชนจากโรคโควิด-19ดังกล่าว และอุปกรณ์ที่ทำให้เกิดความพร้อมในการดูแลรักษาประชาชนและในการดูแลปกป้องสุขภาพของบุคลากรทางการแพทย์ทุกคนด้วย

          พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวด้วยทรงห่วงใยราษฎรอันเกิดจากน้ำพระราชหฤทัยเปี่ยมด้วยพระเมตตาพระมหากรุณา ด้วยทรงตั้งพระราชหฤทัยมุ่งมั่นสืบสานพระราชปณิธานในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เป็นไปตามที่ทรงพระราชทานสัจวาจาเป็นพระปฐมบรมราชโองการ "เราจะสืบสาน รักษา และต่อยอด และครองแผ่นดินโดยธรรมเพื่อประโยชน์สุขแห่งอาณาราษฎรตลอดไป" จึงทรงทุ่มเทพระองค์ปฏิบัติพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่ด้านต่างๆด้วยทรงตั้งพระราชหฤทัยสร้างประโยชน์สุขแก่ราษฎรอยู่ดีมีสุขตามวิถีแห่งเศรษฐกิจพอเพียงมีความสุขอย่างยั่งยืนสืบไป

          เนื่องในโอกาสมหามงคลวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28  กรกฎาคม 2564 เวียนมาบรรจบอีกวาระหนึ่งในนามพสกนิกรชาวไทยด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณและด้วยตั้งมั่นอยู่ในความจงรักภักดี ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถวายพระพรชัยมงคลขออัญเชิญคุณพระรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์ในสากลบันดาลดลให้ทรงมีพระพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรง ทรงพระเกษมสำราญ สถิตย์เป็นมิ่งขวัญร่มโพธิ์ทองของปวงข้าพระพุทธเจ้าคนไทยทั้งประเทศตราบนิจนิรันดร์ ขอทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน

        ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ

        ข้าพระพทุธเจ้าผู้บริหาร-ผู้สื่อข่าวและเจ้าหน้าที่สำนักข่าวการศึกษา edunewssiam.com