ร้อง "ตรีนุช" สั่งสอบทุจริตย้าย ผอ.ร.ร. แลกเลี่ยมทองพระเครื่องแบบอูมอูม

 

 

นายรัชชัยย์ ศรสุวรรณ ประธานชมรมพิทักษ์สิทธิผู้บริหาร ครูและบุคลากรทางการศึกษาแห่งประเทศไทย เปิดเผยเมื่อวันที่ 12 กันยายน 2564 ว่า ตนได้ทำหนังสือร้องเรียนไปถึง น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) พร้อมสำเนาหนังสือร้องเรียนของผู้อำนวยการโรงเรียนมัธยมศึกษาคนหนึ่ง ซึ่งได้ร้องเรียนมาถึงชมรมพิทักษ์สิทธิผู้บริหาร ครูและบุคลากรทางการศึกษาแห่งประเทศไทย กล่าวหามีระดับผู้บริหารสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาแห่งหนึ่งว่า มีพฤติการณ์ส่อไปในทางทุจริตเรียกรับผลประโยชน์ในการแต่งตั้งโยกย้ายผู้อำนวยการโรงเรียน โดยมีพฤติการณ์ดังนี้

๑.หยิบยื่นพระเครื่องให้กับผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งที่ประสงค์จะย้ายแล้วบอกว่า “ถ้าประสงค์จะย้ายไปโรงเรียนนั้นจะดำเนินการให้ แต่ให้นำพระเครื่องนี้ไปเลี่ยมทองให้ด้วย เลี่ยมแบบ อูมอูม นะ”

๒.บงการให้บุคคลภายนอกนำพระเครื่องเลี่ยมทองไปให้ผู้อำนวยการโรงเรียนที่ประสงค์ขอย้าย แล้วต่อมาได้โทรศัพท์ติดต่อผู้อำนวยการโรงเรียนรายนั้นแล้วแจ้งว่า ให้จ่ายเงินค่าพระเครื่องเป็นมูลค่า ๕๐,๐๐๐ บาท โดยแอบอ้างว่าจะนำเงินดังกล่าวไปให้ระดับผู้บริหารในสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.)

๓.รับเงินจากผู้อำนวยการโรงเรียนจากต่างจังหวัดอ้างว่า จะช่วยให้ได้ย้าย แต่ในที่สุดไม่สามารถช่วยได้เพราะเป็นการย้ายข้ามประเภท แต่ไม่คืนเงินให้

และ ๔.ติดต่อผู้อำนวยการโรงเรียนที่ประสงค์ขอย้ายโดยแจ้งว่า จะพาคณะข้าราชการในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาจำนวนประมาณ ๓๐ ราย ไปประชุมที่จังหวัดแห่งหนึ่ง และขอให้ผู้อำนวยการโรงเรียนที่ประสงค์ขอย้ายรายนี้จ่ายค่าที่พัก ค่าอาหาร และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ทั้งหมด

นายรัชชัยย์กล่าวต่อว่า ในหนังสือร้องเรียนถึง น.ส.ตรีนุช ตนได้ยืนยันไปด้วยว่า ข้อมูลที่เรียนนำเสนอครั้งนี้ไม่ใช่เป็นข้อมูลกล่าวอ้างลอยๆ มีพยานหลักฐานมากเพียงพอที่จะแสวงหาข้อเท็จจริงได้ และหากรัฐมนตรีว่าการ ศธ.ประสงค์จะทราบข้อมูลข้อเท็จจริงเพิ่มเติม ชมรมฯยินดีที่จะให้ข้อมูลข้อเท็จจริงนี้ต่อคณะผู้ตรวจสอบ แต่ต้องเป็นการให้ข้อมูลต่อหน้ารัฐมนตรีว่าการระทรวงศึกษาธิการ

ชมรมฯขอเรียนเพิ่มเติมว่า ได้รับหนังสือร้องเรียนเรื่องการเรียกรับผลประโยชน์การย้ายผู้อำนวยการโรงเรียนหลายรายในหลายเขตพื้นที่การศึกษา ทั้งนี้ จะนำข้อมูลการร้องเรียนเสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการต่อไป อนึ่ง ชมรมฯไม่ได้ร้องเรียนกล่าวหาไปที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพราะการร้องเรียนมีการพาดพิงและระบุชื่อระดับผู้บริหารใน สพฐ.บางราย

อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบเชิงลึกจะพบว่า ระดับผู้บริหารในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาบางรายบางเขตที่มีพฤติกรรมเรียกรับผลประโยชน์ ล้วนแล้วแต่เป็นผู้ที่ได้รับการสนับสนุนส่งเสริมและได้รับการขนานนามว่า เป็นเด็กของระดับผู้บริหารในสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานรายนั้น

ชมรมฯขอเรียนว่าปัญหาการทุจริตในเรื่องการเรียกรับผลประโยชน์การย้ายผู้อำนวยการโรงเรียนนั้นเป็นปัญหาที่มีมาหลายสิบปี ไม่สามารถแก้ไขได้ แม้นว่าจะเปลี่ยนตัวองค์กรผู้มีอำนาจการพิจารณา การเปลี่ยนตัวผู้มีอำนาจพิจารณาก็เป็นเรื่องของการเปลี่ยน “เหลือบตัวใหม่หรือกลุ่มใหม่” ให้มาสูบเลือด

ปัจจัยที่ทำให้เกิดโอกาสในการทุจริตเรื่องการย้ายคือ “คะแนนการเขียนเรียงความประกอบการย้าย” ซึ่งเป็นคะแนนที่ค่าระดับคะแนนสูงมาก ไม่สามารถควบคุมได้ ส่งผลให้ข้าราชการที่มีอาวุโสสูง และมีผลงาน ไม่ได้รับการพิจารณา ข้าราชการที่อาวุโสน้อย ไม่มีผลงาน แต่เสียเงินจะได้ค่าระดับคะแนนนี้สูง

ทางแก้ไขคือ กระทรวงศึกษาธิการควรยกเลิกไม่ให้มีคะแนนการเขียนเรียงความประกอบการพิจารณาย้าย หากยกเลิกได้ปัญหาทุจริตการย้ายจะไม่เกิดขึ้น ปัญหาการวิ่งเต้นเป็นผู้แทนใน กศจ.และผู้แทนใน อ.กศจ.จังหวัดต่างๆ ก็จะไม่เกิดขึ้น

หากยังปล่อยให้การทุจริตเรื่องการย้ายผู้อำนวยการโรงเรียนนี้ยังคงมีต่อไป วงจรการทุจริตก็จะหมุนเวียนไปในทุกองคาพยพของการศึกษาไทย เพราะเมื่อต้องเสียเงินในการย้ายก็จะไปทุจริตเรื่องการจัดซื้อ ผู้จำหน่ายก็จะไปวิ่งเต้นข้าราชการระดับสูงให้จัดสรรงบประมาณให้โรงเรียนที่ได้ผู้บริหารมาจากการซื้อตำแหน่ง หมุนเวียนไปเป็นสนิมร้ายกัดกร่อนคุณภาพการศึกษาไทยจนผุพังถึงทุกวันนี้ ผู้ที่ออกมาเปิดโปง ต่อสู้เรียกร้องให้ทราบถึงปัญหา ก็จะถูกกลั่นแกล้งใส่ความจนได้รับความเสียหายหลายราย

“ผมจึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา และเชื่อมั่นว่า น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ จะกรุณาตรวจสอบและสร้างผลงานชิ้นสำคัญให้วงการศึกษาไทย ด้วยการยกเลิกเกณฑ์การให้คะแนนการเขียนเรียงความเพื่อประกอบการพิจารณาย้ายผู้อำนวยการโรงเรียนต่อไป” ประธานชมรมพิทักษ์สิทธิผู้บริหาร ครูและบุคลากรทางการศึกษาแห่งประเทศไทย กล่าว

 

(โปรดกดถูกใจเพจด้านล่าง เพื่อติดตามข่าวสารบนเว็บไซต์ edunewssiam.com)