เสวนากับบรรณาธิการ (วาระพิเศษ) วันที่ 25 ธันวาคม 2564
ความชั่วร้ายต้องไม่เกิดขึ้นใน ศธ.อย่างเด็ดขาด
"ถ้ามี...ผมหวดไม่ยั้ง" สะเทือนดีลคัดเลือก ศธจ.
จบยุค!ติดสินบน ส่งเสบียงหลังบ้าน กราบกราน สอพลอ ล่อไข่แดง
วิชเทพ ฦาชาฤทธิ์ : บรรณาธิการ
ยังคงเหลือเพียงด่านสุดท้าย ของ 87 ชีวิต ซึ่งเป็นผู้ผ่านการสอบคัดเลือกเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.) (ตำแหน่งประเภทอำนวยการ ระดับสูง) ประจำปี 2564 ที่ทำคะแนนผ่านด่านตามเกณฑ์ทั้ง ภาค ก และ ภาค ข ไปแล้ว
แต่จะถูกจะถูกคัดให้เหลือเพียง 17 คนหรือ 17 ตำแหน่ง เท่านั้นที่มีสิทธิจะได้ไปต่อทันที
ด่านสุดท้ายที่ว่านี้ คือ การแสดงตนเข้ารับการสัมภาษณ์ ที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ในวันเสาร์ที่ 25 ธันวาคม และ 26 ธันวาคม 2564 ตรงช่วงเทศกาลคริสต์มาส และคงจะรู้ผลตัวจริงที่ผ่าน กับตัวสำรองที่จะต้องเป็นฝ่ายร้องเพลงรออีกจำนวนหนึ่ง คงในช่วงจังหวะส่งท้ายปีเก่า - ต้อนรับปีใหม่ 2565 นั่นแหละ
อย่างไรก็ตามในวงราชการบ้านนี้เมืองนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เรามักจะได้ยินจนชินชา ตลอดเวลามานานข้ามกาลเวลามาหลายทศวรรษ ในทุกครั้งทุกวาระที่มีการคัดเลือกหรือการแต่งตั้งโยกย้ายเลื่อนตำแหน่งหน้าที่ให้ไปอยู่ในระดับสูง ไม่ว่าจะเป็นการให้สมัคร ใช้วิธีสรรหา ให้สอบคัดเลือก ให้สอบแข่งขัน หรือดำเนินการในกรณีที่มีเหตุพิเศษ ซึ่งอาจจะมีการสอบข้อเขียน สอบปฏิบัติ สอบสัมภาษณ์
มักมีการกล่าวถึงเรื่องซื้อขายเก้าอี้กันในราคา 7 หลักขึ้นไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความสำคัญของตำแหน่งนั้น ๆ แต่ไม่เคยมีใบเสร็จมาแสดง ก็หมายความว่า เป็นการกล่าวหาใส่ความที่ไม่มีความจริง เลื่อนลอย ส่วนใครจะเชื่อหรือไม่กับวงจรอุบาทว์ที่ว่า ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
แต่ในที่สุดแล้ว มาถึงการสอบคัดเลือกเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.) (ตำแหน่งประเภทอำนวยการ ระดับสูง) ประจำปี 2564 ที่ว่านี้ ก็วนลูปเดิม ๆ ที่น่าจับตามองว่า ดร.สุภัทร์ จำปาทอง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ จะเป็นตำนานที่ให้สังคมคนศึกษาได้กล่าวขานถึงในฐานะ เป็นผู้สามารถจัดการกับวงจรอุบาทว์ ได้หรือไม่
เนื่องจากเป็นผู้ลั่นวาจาหนักแน่นในอารมณ์ ขึงขังจริงจัง ว่า
...ถ้ามีเรื่องการซื้อขายตำแหน่ง ศธจ. การคัดเลือกรอง ศธภ. และซี 10 ในศธ. 88 คน ตามที่กล่าวหากัน ในวันเสาร์-อาทิตย์ที่ 25-26 ธันวาคม 2564 มันไม่มีทางเป็นไปได้ และหากมีเรื่องพวกนี้... ❝ ผมหวดไม่ยั้ง❞
ยืนยันรับรองผ่าน คลิปวิดีโอสัมภาษณ์เผยแพร่ในเพจชื่อ “ช่วยอ่าน ชวนรู้ เชิญทำ สุภัทร จำปาทอง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ” อีกด้วยว่า ความชั่วร้ายจะต้องไม่เกิดขึ้นในกระทรวงศึกษาธิการอย่างเด็ดขาด คนเราทำงานพลาดได้ แต่โกงไม่ได้
ยังตามมาด้วย...การสอบคัดเลือกจะต้องเป็นไปอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม ไม่ว่าการคัดเลือกตำแหน่งรองศึกษาธิการภาค (ตำแหน่งประเภทบริหารต้น) 3 ตำแหน่งแทนที่เกษียณอายุราชการ น่าจะเริ่มสอบคัดเลือกในเร็ว ๆ นี้ ส่วนตำแหน่งซี 10 ที่รัฐมนตรีได้อนุญาตให้สรรหา ตำแหน่งผู้ตรวจราชการ ศธ.ที่ยังว่างอีก 2 ตำแหน่ง และตำแหน่งศึกษาธิการภาคอีก 2 ตำแหน่ง ซึ่งจะเป็นการเสนอชื่อจากหัวหน้าผู้บริหารทั้ง 4 แท่ง ของ ศธ.
จบไหมกับคำยืนยันของปลัดกระทรวงศึกษาธิการ อันเป็นตำแหน่งสูงสุดของข้าราชการใน ศธ. ไม่ใช่เป็นเสียงของคุณชายหน่อมแน้มหรือคุณหนูอ่อนโลก ซะที่ไหน
โดยเฉพาะประโยคที่ว่า "...ถ้ามี ผมหวดไม่ยั้ง..” มันช่างได้ความสะใจคน ศธ.รุ่นใหม่ ทะลุทะลวงไปไกล
อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีคำถามตามมาว่า แม้คนที่ได้เข้ามาในตำแหน่งศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.) ทั้ง 17 คนนั้น อาจไม่มีข้อกังขากับบรรดากรรมการที่สอบสัมภาษณ์ ก็จริง
แต่บุคคลที่หลุดออกไปอีก 70 คน ส่วนหนึ่ง ศธ.จะมั่นใจได้มากน้อยเพียงใดถึงสิ่งที่เขาได้ถูกพิพากษาด้วยคนเพียงไม่กี่คนที่นั่งอยู่ ทั้ง ๆ ที่ตลอดเวลาการปฏิบัติงานที่ผ่านมา ล้วนเป็นที่ประจักษ์ถึงคุณลักษณะและสมรรถนะอย่างดีเยี่ยม
หากกรรมการสอบสัมภาษณ์ท่านใด มีอคติหรือความลำเอียง ไร้เหตุผลในการตัดสินใจ หรือมีพฤติกรรมอันชวนกังขา อาจจะนำไปสู่การร้องเรียนจากผู้รับการสัมภาษณ์ก็ได้
อีกทั้ง ศธ.เอง ยังมิอาจหนีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่สะท้อนตามมาถึง ระบบสังคมราชการไทยยังผูกติดกับระบบอุปถัมภ์ ซึ่งทำให้คนเก่ง คนดีมีความรู้ ความสามารถที่ต้องการจะก้าวหน้า ต้องท้อแท้ เมื่อนึกถึงคำพูด 5 คำ ที่ไล่เรียงลำดับความสำคัญว่า
“ เลียตีน สินมาก ปากสอพลอ ล่อไข่แดง แกร่งวิชา ”
แม้จะผ่านมา15 ปี คำที่ยกมาให้เห็นนี้เป็นคำพูดของ พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย ยุคหนึ่ง พูดถึงระบบสังคมราชการไทยที่ผูกติดกับระบบอุปถัมภ์ เมื่อปลายเดือน ธันวาคม 2549 ชี้จำเพาะลงไปที่ การมีความรู้ความสามารถแตกฉาน เป็นปัจจัยหลังสุดที่จะช่วยให้ก้าวหน้าในชีวิตราชการ ยังคงเป็นเครื่องยืนยันว่าจริง
แม้แต่ ในหนังสือ “ลูกชาวบ้าน” ของ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ คุณไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม ยังขยายความถึง ระบบ “เลียตีน” และระบบอุปถัมภ์ ที่ผ่านมานั้น วันนี้ยังเป็นกลไกสำคัญทำให้การเมืองไทยตกอยู่ในวังวนการซื้อเสียง ระบบบุญคุณ การเล่นพวก มากกว่าจะตระหนักถึงผลประโยชน์ส่วนรวม
ด้วยเหตุนี้ ศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.) ทั้ง 17 คน ที่ผ่านเข้าสู่จุดหมายก็ดี รวมไปถึง ตำแหน่งซี 10, ตำแหน่งผู้ตรวจราชการ ศธ.ที่ว่างอยู่อีก 2 ตำแหน่ง, ตำแหน่งศึกษาธิการภาคอีก 2 ตำแหน่ง และ ตำแหน่งรองศึกษาธิการภาค (ตำแหน่งประเภทบริหารต้น) 3 ตำแหน่ง ที่กำลังตามมา ขอให้ทำใจร่ม ๆ ไว้ กับเสียงที่จะดังขึ้น เรื่อย ๆ กับคำอมตะที่ไม่เคยตายไปจากกระบบราชการไทย ที่ว่า
“ สายโลหิต ศิษย์ข้างเคียง มีสินบน ส่งเสบียงหลังบ้าน กราบกราน สอพลอ ล่อไข่แดง เข้าหาผู้อุปถัมภ์ ”
อย่างไรก็ตาม ในจำนวน 87 คน ผู้สัมภาษณ์คงรับรู้กันแล้วทั้งชื่อเสียงเรียงนาม ตำแหน่ง สังกัด และ อาจจะล่วงรู้ทั้งเกียรติประวัติอันเป็นวีรกรรมที่น่าจดจำ หรือน่ารังเกียจ ทั้งในอดีตและปัจจุบันในการทำงานทั้งเชิงลึก เชิงกว้าง ตลอดบุคลิกนิสัยผู้ที่ถูกสัมภาษณ์นั้นได้ปรากฎ ซึ่งบรรดาเจ้าสัวคนดังของภาคเอกชน มักจะจำแนกบุคคลิกและคุณลักษณะของบุคคลที่จะรับเข้ามาทำงานด้วยเป็นประเภท ๆ ไป
อาทิ กระทิง หมี เหยี่ยว นกยูง นกพิราบ นกฮูก หนู หรือ ลิง บ่าง ค่าง ชะนี ที่มีทั้งจุดอ่อนและจุดแข็งแตกต่างกันไป
แม้กระทั่งใน ❝ตำราพิชัยสงครามขงเบ้ง❞ ซึ่ง ขงเบ้ง ที่ปรึกษาและนักการทหารคนสำคัญของยุคสามก๊ก มอบให้แก่ เกียงอุย นายทหารเอก บอกถึงการดูคน 7 วิธี ในบทที่ 3 แม้ทุกวันนี้ในวงการธุรกิจ การเมือง และการทหาร ยังมีการยกอ้างสืบทอดถึงปัจจุบัน มีใจความสำคัญว่า
❝...อันการหยั่งรู้ ดูอุปนิสัยใจคอคนนั้นเป็นเรื่องยาก คนมีดีชั่วแตกต่าง นิสัยใจคอหาใช่จะสัมพันธ์กับรูปลักษณ์ภายนอก บางคนหน้าซื่อ แต่...ใจกลับคิดคด บางคนสุภาพอ่อนหวาน แต่...กลับมีจิตใจเลวทราม บางคนเกรี้ยวกราดห้าวหาญ แต่...กลับขี้ขลาดตาขาว บางคนมีมานะแข็งขัน แต่กลับกลิ้งกลอกหาความสัตย์มิได้ ใจคนนั้นแม้นจะดูยาก แต่...ก็พอมีโอกาสหยั่งถึง... ❞
ก็รอเอาใจช่วยกระทรวงศึกษาธิการ อยู่ว่าอีกเมื่อใด สายโลหิต ศิษย์ข้างเคียง มีสินบน ส่งเสบียงหลังบ้าน กราบกราน สอพลอ ล่อไข่แดง เข้าหาผู้อุปถัมภ์ หรือพวกประเภท เลียตีน สินมาก ปากสอพลอ ล่อไข่แดง จะหมดสิ้นไปเสียที
รอบนี้ฝากความหวัง ก้บ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ “ผมหวดไม่ยั้ง”คนนี้นี่แหละ
(โปรดกดถูกใจเพจ Edunewssiam ด้านล่างขวา เพื่อรับข่าวสารอัพเดตในฟีดข่าว)