รายงานพิเศษ 

“...๑) มีทัศนคติที่ดีที่ถูกต้องต่อบ้านเมือง  ๒) มีพื้นฐานชีวิตที่มั่นคง  ๓) มีคุณธรรมและ ๔) มีงานมีอาชีพสามารถเลี้ยงตนเองเลี้ยงครอบครัวได้และเป็นพลเมืองที่ดีมีระเบียบวินัย...”

พระบรมราโชบายด้านการศึกษามุ่งสร้างพื้นฐานให้แก่ผู้เรียน 4 ด้าน ในพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ด้วยทรงมีพระราชประสงค์ที่จะทรงสืบสาน รักษา ต่อยอดพระราชปณิธาน ของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในการสร้างคนดีให้แก่บ้านเมือง

 สองปีเศษที่ต้องจมปลักเก็บตัวอยู่ในพื้นที่จำกัด แทบพูดได้ว่าโดดเดี่ยว จะออกไปนอกบ้านต้องเอาผ้าปิดปากปิดจมูก ยืนเดินนั่งต้องให้ห่างกัน ยิ่งพบปะพูดคุยบ้างก็ยิ่งต้องปิดปากปิดจมูกพูด สัมผัสวัตถุสิ่งของใดที่ไม่ใช่ของเราต้องล้างมือด้วยแอลกอฮอล์ ดีที่ยังไม่ต้องฉีดที่ปากจมูกให้เชื้อโควดตายก่อนจะล่องลอยไปพร้อมฝอยน้ำลาย สภาพเป็นตัวประหลาดดังมัมมี่ สภาพเป็นอัตโนมัติแทบขยับเขยื่อนไปทางไหนก็ไม่ได้

โดยเฉพาะการไปมาหาสู่กับคนคุ้นเคยในท้องถิ่นต่างจังหวัด ที่ก่อนหน้าโควิด-19มามีโอกาสออกจากกทม.ไปท้องถิ่นหนึ่งเดือนอย่างน้อยก็ต้องหนึ่งหน จังหวัดไกลหน่อยก็ได้ค้างคืน เหตุผลหลักก็เพราะโรคระบาดโควิด-19 โควิดที่สร้างความล่มจมให้กับชีวิตผู้คนทั้งโลกโดยเฉพาะคนไทยเรามากมายหลายล้านคน สุขภาพกายย่ำแย่เพิ่มขึ้น สุขภาพใจแย่หนัก อดอยากยากจนเพิ่มขึ้น

          วันนี้เห็นจะเริ่มชินพอจะโผล่ไปไหนได้บ้าง แต่ยังคงต้องคงสภาพเป็นมัมมี่ไว้ดังเดิมเคร่งครัด ได้ไปพบปะคนคุ้นเคยที่แรก คือ วิทยาลัยอาชีวศึกษาสุพรรณบุรี(วอศ.) เมื่อวันที่ 20 พค.2565 เพิ่มเปิดเรียนแบบOnsite เต็มรูปแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ หลังจากที่เรียนOnline มายาวนานสองปีกว่าเพราะโควิด-19 ไปเยี่ยมเยือน ผอ.วิทยาลัยอาชีวศึกษาสุพรรณบุรีดร.ศรากร บุญประถัมภ์ ครูบาอาจารย์ส่วนหนึ่ง นักเรียนนักศึกษาส่วนหนึ่งรวมถึงเจ้าหน้าที่อีกส่วนหนึ่ง

          ที่จริงโรคระบาดโควิด-19 ยังคงต้องระวังอย่างสำคัญอยู่ แต่มีเหตุให้ต้องไปพบปะกันนอกจากเยี่ยมเยือนด้วยความระลึกถึงตามวิถีไทยแล้ว เรื่องที่ผู้บริหารสถานศึกษาวางรากฐานไว้อย่างต่อเนื่อง เฉพาะอย่างยิ่งสถานศึกษาวิชาชีพ สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา(สอศ.)ทั่วประเทศ หนึ่งนั้นก็ คือ วิทยาลัยอาชีวะสุรรณบุรี หรือวอศ.

          แม้โควิดระบาดก็หยุดถ่ายทอดองค์ความรู้ความชำนาญด้านอาชีพต่างๆที่เกี่ยวข้องให้กับนักเรียนนักศึกษาไม่ได้ โดยเฉพาะการเน้นย้ำให้เป็นคนดี เป็นคนมีระเบียบวินัย ต้องฝึกฝนความขยัน อดทน การรู้จักให้ผ่านจิตอาสาช่วยเหลือเกื้อกูลคนอื่น มีความกตัญญูรู้คนพ่อแม่ครูอาจารย์ แล้วต้องขยันฝึกปรืออาชีพตามสายวิชาที่เรียนแม้จะเรียนออนไลน์อยู่ที่บ้านก็ตาม

      วันนี้นักเรียนนักศึกษาทั้งประเทศไปเรียนแบบออนไซต์ที่วิทยาลัยหรือสถานศึกษาของตัวเองได้แล้ว โดยเฉพาะที่วอศ.สุพรรณ ก็เริ่มปลูกฝังหล่อหลอมรูปธรรมความเป็นคนดี เป็นคนเอาใจใส่ในวิชีพฝึกปรือฝีมือให้เชี่ยวชาญ ทั้งวิชาชีพที่ลงเรียนในวิทยาลัยและทักษะวิชาชีพเสริมนอกวิทยาลัย นำเข้าไปจุดประกายเสริมทักษะฝีมือกันสร้างทัศนคติทางเลือกเสริมดำเนินชีวิตจริงในอนาคต

      โดยผอ.ดร.ศรากร พร้อมผู้บริหารรวมหัวใจสนองพระบรมราโชบายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สร้างพัฒนาคนดีพัฒนาเยาวชนให้เป็นคน มีทักษะฝีมือ ในการประกอบอาชีพ เป็นเครื่องมือพัฒนาคุณภาพชีวิตพัฒนาชุมชนและเป็นกำลังพัฒนาประเทศชาติ น้อมนำพระบรมราโชบายที่พระราชทานไว้มาเป็นรากฐานการปลูกฝังหล่อหลอมในนักเรียนนักศึกษาวอศ.สุพรรณ โดยทำความร่วมมือนำเอาประสบการเสริมทางอาชีพไปให้นักเรียนนักศึกษา ครูอาจารย์ นักการของวิทยาลัย รวมถึงเชิญชวนชาวชุมชนรอบ ๆ สถานศึกษาเข้ามาร่วมการอบรมและฝึกฝีมือทำกันจริงๆกับวิธีการฉาบปูนลอฟท์ โดยบริษัทควิกโคท โปรดักส์ จำกัด นำโดยทีมผู้บริหารของบริษัท ที่ได้รับมอบหมาย คือ คุณนุช  ยิ่งไพบูลย์ ที่ให้การส่งเสริมนำองค์ความรู้วิชาการ เทคนิคการฉาบปูนสไคล์ลอฟท์มาพัฒนาให้แบบให้เปล่าทั้งนำวิทยาลัยผู้เชี่ยวชาญและวัสดุอุปกรณ์มาให้นักเรียนนักศึกษาและผู้เข้าร่วมอบรมฝึกลงมือทำจริงๆกันเลย

       คุณนุช ยิ่งไพบูลย์ กล่าวเสริมว่า ทางบริษัทเองก็มีสำนึกตรงกันกับวิทยาลัย มีจุดหมายร่วมกันคือสนองสืบสานพระบรมราโชบายของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงมีพระราชหฤทัย สืบสาน รักษา ต่อยอด พระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรในการสร้างคนดีให้แก่บ้านเมือง คนดีที่มีทัศนคติที่ดีที่ถูกต้องต่อบ้านเมือง  มีพื้นฐานชีวิตที่มั่นคง  มีคุณธรรมและมีงานมีอาชีพ สามารถเลี้ยงตนเองเลี้ยงครอบครัวได้และเป็นพลเมืองที่ดีมีระเบียบวินัย และมีความตั้งใจที่จะเป็นกำลังหนึ่งสนับสนุนส่งเสริมการศึกษาไทยการศึกษาวิชาชีพไทยให้คนไทยมีทักษะฝีมือ เป็นเครื่องมือนำไปประกอบอาชีพ ช่วยเหลือตัวเองครอบครัวได้มีความสุขแบบพอเพียงพออยู่พอกินพึ่งพาตัวเองได้อย่างยั่งยืน

       ผอ.วอศ.กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า พื้นที่ฝึกปฏิบัติจริงคือผนังอาคารวิทยาลัย ที่มีสภาพเก่าอยู่มากทีเดียว สิ่งที่ได้เป็นรูปธรรมคือปรับปรุงพัฒนาผนังอาคารให้สดใสแปลกตาจากภาพที่สื่อสัญลักษณ์ความเป็นสุพรรณบุรีคืออนุสรณ์ดอนเจดีย์ เป็นต้นและได้เห็นทักษะฝีมือช่างฉาบปูนลอฟท์มือให้พัฒนาสร้างสรรค์จินตนาการบวกพลังสามัคคีกันปรุงแต่งผนังอาตารให้สดใสด้วยการฉาบแบบปูนลอฟท์

          ความรู้และประสบการทักษะนี้ก็ติดตัวผู้เข้าอบรมคราวนี้ ถ้าไปขยายผลต่อก็จะเกิดความเชี่ยวชาญชำนาญเป็นอาชีพทางเลือกได้สบาย ซึ่งวิทยากรบอกนำไปพัฒนาได้ตั้งแต่ของเล็กๆอย่างถ้วยโถโอชาม กระถางต้นไม้ ม้าหินอ่อน สุดแต่ใครจะใส่จินตนาการเข้าไปตามที่ต้องการได้เลย

        ดร.ศรากร ย้ำที่มาว่ากิจกรรมเสริมทักษะฝีมือทางอาชีพเป็นโครงการอาชีพระยะสั้นเป็นทางเลือกให้กับนักเรียนนักศึกษา บุคลากรของวิทยาลัยที่สนใจตลอดจนประชาชนในพื้นที่จังหวัดสุพรรณ เป็นการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์   

         โดยเฉพาะนักเรียนนักศึกษาที่สนใจเข้าร่วมอบรมฝึกทำได้ใช้เวลาที่ก่อประโยชน์มาก อาจเป็นทางเลือกทางอาชีพในอนาคตเสริมจากอาชีพหลักที่เรียนตามหลักสูตรของวิทยาลัยทั้งปวช.และปวส.ไปจนถึงปริญญาตรี และที่ได้เพิ่มคือได้รับการเน้นย้ำรากฐานความเป็นคนดีเพิ่มเข้าไป อย่างเช่นความขยัน ความอดทน ความสามัคคี การรู้จักทำกิจกรรมหรือทำงานร่วมกับคนอื่น ซึ่งเป็นพระบรมราโชบายที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเอาพระราชหฤทัยใส่ในเรื่องนี้มาก

ดร.ศรากร บุญประถัมภ์ ผอ.วอศ. ได้เพิ่มเติมข้อมูลที่เกิดกิจกรรมนี้ว่า ร่วมกับ นางสาวนุช ยิ่งไพบูลย์ ผู้จัดการแผนกคู่ค้าสัมพันธ์และประชาสัมพันธ์ บริษัท ควิกโคท โปรดักส์ จำกัด จัดทำโครงการอบรมระยะสั้น หลักสูตรตกแต่งผนังปูนลอฟท์ ให้ครู เจ้าหน้าที่ และนักเรียน นักศึกษา วิทยาลัยอาชีวศึกษาสุพรรณบุรี เพื่อสร้างทักษะพิเศษที่นำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ ณ บริเวณหน้าอาคาร 1 โดมรวมน้ำใจ วิทยาลัยอาชีวศึกษาสุพรรณบุรี

การจัดทำหลักสูตรการอบรมระยะสั้น ตกแต่งปูนลอฟท์ให้ครูเจ้าหน้าที่และนักเรียน นักศึกษาวิทยาลัยอาชีวศึกษาสุพรรณบุรี เพื่อให้นักเรียน นักศึกษาได้ใช้ความรู้ ความสามารถ จากการเรียนรู้ในห้องเรียน มาประยุกต์ใช้ในการตกแต่งผนังปูนลอฟท์ เพื่อได้พัฒนาศักยภาพและความคิดสร้างสรรค์

อย่างหนึ่่งที่เห็นเป็นที่สะดุดตาสะดุดใจแก่ผู้มาเยือน คือ วิทยาลัยมีสถานที่ที่สวยงาม มีภูมิทัศน์และบรรยากาศการเรียนการสอนที่ดี โดยผู้เรียนซึ่งเป็นนักศึกษา แผนกวิชาศิลปกรรม และเจ้าหน้าที่ จำนวน 42 คน เป็นผู้ดำเนินการ อีกทั้งยังได้มีโอกาสพัฒนาทักษะฝีมือในเรื่องงานปูนโดยเฉพาะปูนลอฟท์ ซึ่งเป็นปูนที่สามารถทำได้ไม่ยากและเมื่อได้ทดลองทำแล้วก็จะทำให้เกิดทักษะและนำไปใช้ในชีวิตจริงได้ เช่น ซ่อมงานบ้านหรือรับทำงานตกแต่งในชุมชนเป็นรายได้เสริม”

ผอ.วอศ.กล่าวอีกว่า สำหรับผู้เข้ารับการอบรมหลักสูตรนี้ จะได้มีความรู้ความสามารถ ที่เพิ่มเติมจากในห้องเรียนโดยนำความรู้ใหม่มาประยุกต์ใช้และเกิดการพัฒนาศักยภาพ มีความคิดสร้างสรรค์จากการทำกิจกรรมตกแต่งผนังปูนลอฟท์ ซึ่งเป็นอาชีพที่ติดตัวไปได้ตลอด และงานปูนก็เป็นเรื่องใกล้ตัวที่ทุกคนสามารถเข้าถึงและนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ได้ในชีวิตจริง และเป็นอาชีพที่มีความเป็นสมัยนิยม

โดยหลังจากการอบรมภาคทฤษฎีแล้ว ผู้เข้ารับการอบรมได้ลงมือปฏิบัติจริง ในการปรับภูมิทัศน์สถานศึกษา ให้มีบรรยากาศน่าเรียน เป็นการพัฒนาสถานศึกษาร่วมกัน สร้างให้เกิดความรักสามัคคี และร่วมกันดูแลพื้นที่ในสถานศึกษาให้น่าอยู่ น่าเรียน นำทักษะความรู้ที่ได้ไปใช้พัฒนาบ้านเรือน ชุมชนของตนต่อไป

“ความร่วมมือที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ เป็นประโยชน์กับการอาชีวศึกษาเป็นอย่างยิ่ง เพราะภาคเอกชนมีความพร้อม มีมาตรฐานในการบริหารจัดการ จะนำเทคโนโลยีและอุปกรณ์ที่ทันสมัย พร้อมทั้งวิทยากรที่มีความชำนาญ มาให้นักเรียนนักศึกษาอาชีวศึกษาได้ฝึกเพื่อให้เกิดทักษะและประสบการณ์จริง" ดร. ศรากร บุญประถัมภ์  ผอ.วิทยาลัยอาชีวศึกษาสุพรรณบุรีกล่าว

แน่นนอนว่า สิ่งที่ตามมา นอกจากนักเรียนนักศึกษาจะมีความรู้เพิ่มขึ้นแล้ว ก็จะทำให้ผู้เรียนมีความพร้อมที่จะออกไปประกอบอาชีพ เป็นการสร้างคุณภาพ สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้เรียนเพื่อที่จะให้เป็นทรัพยากรมนุษย์ที่มีศักยภาพเพียงพอที่จะช่วยพัฒนาประเทศชาติสืบไป 

เสกสรร  สิทธาคม : รายงาน

(โปรดกดถูกใจเพจด้านล่าง เพื่อติดตามข่าวสารบนเว็บไซต์ edunewssiam.com)