สพฐ.ไม่ปล่อยผ่าน ครูลงโทษใช้เข็ม ทิ่มปากเด็กยกชั้น 36 คน

 

สพฐ.ไม่ปล่อยผ่าน ครูลงโทษใช้เข็ม

ทิ่มปากเด็กยกชั้น 36 คน 

 

เหตุเกิดเมื่อวันที่ 25 ม.ค. 67 ผู้ปกครองของเด็กนักเรียนชั้น ป.2 วัย 7 ขวบ โรงเรียนแห่งหนึ่งในซอยวัดด่านสำโรง ตำบลสำโรงเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ ได้เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ กับ ร.ต.อ พลวัฒน์ สิริสุขดาโรจน์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.สำโรงเหนือ และร้องเรียนกับสื่อมวลชน หลังจากที่ลูกชายและเพื่อนรวม 36 คน ถูกครูผู้หญิงลงโทษโดยการใช้เข็มทิ่มปากยกชั้นเรียน

 

เนื่องจากเพื่อนกินหมากฝรั่งกันในห้องแล้วคายทิ้งไม่เป็นที่ ครูเข้ามาในห้องเรียนแล้วเหยียบฝรั่ง จึงถามใครเป็นคนกินหมากฝรั่ง แต่ก็ไม่มีใครยอมรับจึงจับเด็กนักเรียนนั่งเรียงกัน แล้วจุดธูปให้นักเรียนสาบานก่อนเอาเข็มทิ่มปากเด็กทุกคนจนเป็นแผล

 

ขณะที่ในไลน์ผู้ปกครอง มีผู้ปกครองส่งไลน์ตำหนิครูผู้ก่อเหตุและทางโรงเรียน เพื่อถามหาความรับชอบ หวั่นลูกหลานที่ถูกลงโทษจะติดโรคติดต่อ เพราะใช้เข็มเล่มเดียวกันทิ่มปากเด็กจนเป็นแผลทั้ง 36 คน

 

 

ล่าสุดเช้านี้ วันที่ 26 มกราคม 2567 ผอ.โรงเรียน ดังกล่าวได้นัดผู้ปกครองของนักเรียนทั้ง 36 คนมาชี้แจง โดยแสดงความเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้ไม่สมควรเกิดกับเด็กในโรงเรียน เป็นการกระทำที่ไม่ไตร่ตรองน่าตกใจมาก ด้วยว่า ครูใช้อะไรคิดจึงลงโทษแบบนี้

 

ส่วนการสอบถามครูทั้ง 2 คน ที่อยู่ในเหตุการณ์และครูที่เอาเข็มจิ้มปากเด็กก็ยอมรับว่าทำจริง และใช้เข็มกลัดไม่ใช่เข็มเย็บผ้าในการจิ้ม

 

ผอ.กล่าวด้วยว่า ล่าสุดได้ตั้งคณะกรรมการเข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริง และรายงานไปที่เขตพื้นที่การศึกษาสมุทรปราการ เพื่อดำเนินการลงโทษทางวินัยกับครูทั้ง 2 คน โดยจะไม่ปล่อยผ่านเนื่องจากเป็นนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ และของโรงเรียน ที่สำคัญที่สุด คือ จรรยาบรรณวิชาชีพของครู ซึ่งขณะนี้มีคำสั่งให้ครูทั้ง 2 คน หยุดปฏิบัติหน้าที่ไว้ก่อนและย้ายไปปฏิบัติหน้าที่ส่วนกลาง หากการสอบสวนและและทำเกินกว่าเหตุ อาจถึงขั้นไล่ออก

 

ขณะเดียวกัน นายธีร์ ภวังคนันท์ รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ให้ข้อมูลว่า ตนได้กำชับให้เขตพื้นที่การศึกษารายงานผลการสอบสวนภายใน 7 วัน รวมถึงได้สั่งตรวจสอบทั้งร่างกายและจิตใจเด็กเพื่อเร่งเยียวยาแล้ว

 

 

อีกทั้งย้ำว่า ปกติขั้นตอนการลงโทษเด็กนักเรียนหรือนักศึกษาที่ทำผิด โดยมุ่งหมายเพื่ออบรมสั่งสอน มีตั้งแต่ ว่ากล่าวตักเตือน ทําทัณฑ์บน ตัดคะแนนความประพฤติ ทํากิจกรรมเพื่อให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม

 

เพราะกระบวนการโรงเรียน เน้นให้เด็กเรียนรู้ในการทำผิดพลาด แต่ต้องไม่ใช่ใช้การลงโทษด้วยความรุนแรง

 

#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าว edunewssiam ได้ที่นี่ 

https://www.facebook.com/edunewssiamfanpage