กยศ.ตรวจสอบพบสถานศึกษา รับโอนนศ.พุ่งผิดปกติ

 

กยศ.ตรวจสอบพบสถานศึกษา

รับโอนนศ.พุ่งผิดปกติ 

 

นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีข่าวผ่านสื่อรับรู้อย่างแพร่หลายว่า กลุ่มตัวแทนนักศึกษาวิทยาลัยแห่งหนึ่งได้มายื่นคำร้องต่อศาลปกครองระยอง ให้กองทุนฯ อนุมัติเงินกู้ยืมเรียนให้กับพวกตนจนสำเร็จการศึกษา เนื่องจากในระบบแจ้งว่าถูกระงับการให้กู้ยืม โดยกองทุนฯได้ตรวจสอบข้อมูลแล้วพบว่า

 

นักศึกษากลุ่มดังกล่าวเป็นผู้กู้ยืมรายเก่าเลื่อนชั้นปี และได้รับเงินค่าเล่าเรียนปีการศึกษา 1/2566 และค่าครองชีพไปแล้ว 3 งวด ก่อนที่กองทุนฯจะได้รับแจ้งจากกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2566 ว่า สถานศึกษาได้ยกเลิกกิจการ ซึ่งได้ลงประกาศราชกิจจานุเบกษา เล่ม 140 ตอนพิเศษ 59 ง เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2566 มีคำสั่งให้เลิกกิจการวิทยาลัยที่จังหวัดระยอง ตั้งแต่วันที่ 30 พฤศจิกายน 2565

 

ซึ่งกองทุนฯ ไม่เคยได้รับแจ้งเรื่องการขอยกเลิกการดำเนินกิจการจากทางสถานศึกษาแต่อย่างใด การที่นักศึกษากลุ่มดังกล่าวได้ยื่นขอกู้ประจำปีการศึกษา 2566 เพื่อศึกษาที่วิทยาลัยในจังหวัดระยองหลังจากที่ยกเลิกกิจการแล้วจึงไม่ถูกต้อง กองทุนฯจึงจำเป็นต้องระงับการให้กู้ยืมเงินไว้เพื่อมิให้เกิดข้อผิดพลาด

 

หลังจากทราบเรื่องดังกล่าว กองทุนฯได้ขอข้อมูลการโอนย้ายและแผนการโอนนักศึกษาที่กำลังศึกษาอยู่ไปศึกษาต่อที่อื่นไปยังกระทรวง อว. และกองทุนฯได้รับแจ้งจาก อว.ว่า ทางสถานศึกษาได้จัดทำแผนการโอนนักศึกษาที่กำลังศึกษาจำนวน 1,212 คน ไปศึกษาต่อที่จังหวัดศรีสะเกษ

 

ต่อมา ผู้ชำระบัญชีของสถานศึกษาได้แจ้งขอเปลี่ยนข้อมูลจากเดิม 1,212 คน เป็น 3,580 คน โดยอ้างว่าข้อมูลในระบบมีความผิดพลาด ซึ่งกองทุนฯได้มีหนังสือสอบถามสถานศึกษาไปรวม 4 ครั้ง เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2566 วันที่ 10 พฤศจิกายน 2566 วันที่ 30 พฤศจิกายน 2566 และวันที่ 29 มกราคม 2567 และได้ติดต่อสถานศึกษาทางโทรศัพท์อีกหลายครั้งแต่ยังไม่ได้ข้อมูลตามที่ร้องขอ

 

ปัจจุบันอยู่ระหว่างรอสถานศึกษาชี้แจงและแจ้งรายชื่อนักศึกษาที่โอนย้ายสถานศึกษาจากจังหวัดระยองไปยังจังหวัดศรีสะเกษ หากกองทุนฯได้รับข้อมูลและตรวจสอบแล้วถูกต้อง กองทุนฯจะอนุมัติเงินกู้ต่อไป

 

“กองทุนฯขอยืนยันว่า เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว ทางกองทุนฯได้มีหนังสือเชิญผู้แทนจากกระทรวง อว.และผู้แทนจากจังหวัดระยองและจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมกับลงพื้นที่เพื่อพบนักศึกษาที่มีรายชื่อยื่นกู้ในระบบจำนวน 3,115 คนที่เดือดร้อนภายในสัปดาห์หน้า และคาดว่าเมื่อได้ข้อมูลจากทางสถานศึกษาจะแก้ไขปัญหาทั้งหมดได้” ผู้จัดการกองทุนฯกล่าวในที่สุด

 

โดยที่ผ่านมากองทุนฯมิได้นิ่งนอนใจ ได้มีการติดตามข้อมูลรายชื่อนักศึกษาที่โอนย้ายไปศึกษาต่อที่อื่นหลายครั้ง แต่ยังไม่ได้รับข้อมูลตามที่ร้องขอ ขณะนี้อยู่ระหว่างรอสถานศึกษาชี้แจงข้อมูลให้ชัดเจน หากกองทุนฯได้รับข้อมูลและตรวจสอบแล้วถูกต้อง กองทุนฯจะอนุมัติเงินกู้ต่อไป ผู้จัดการกองทุนฯกล่าว

 

#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าว edunewssiam ได้ที่นี่ 

https://www.facebook.com/edunewssiamfanpage