เรื่องโดย: ปัญจวรา บุญสร้างสม Team Content www.thaihealth.or.th ข้อมูลบางส่วนจาก งานแถลงข่าว “ลดเร็ว ลดเสี่ยง กลับบ้านปลอดภัย ปีใหม่ 2564” , จดหมายข่าวเครือข่ายลดอุบัติเหตุ (ก.ย.-ธ.ค.2563) และจดหมายข่าวชุมชนคนรักสุขภาพ ฉบับสร้างสุข (ธ.ค.62)
ปีใหม่ เทศกาลแห่งการเปลี่ยนศักราชที่ทุกคนรอคอย เปรียบเสมือนช่วงเวลาแห่งการพักผ่อนหลังจากที่เหน็ดเหนื่อยจากเรื่องราวต่างๆ มาตลอดทั้งปี หลายคนเลือกที่จะเดินทางไปท่องเที่ยวตามที่ต่างๆ หลายคนเลือกที่จะเดินทางกลับบ้านไปหาครอบครัว คนรัก
แต่ปีใหม่ปีนี้มีเหตุการณ์ที่ทำให้หลายสิ่งหลายอย่างเปลี่ยนแปลงไป ทำให้พวกเราต้องปรับตัว ปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิตกันครั้งใหญ่เลยทีเดียว เหตุการณ์นั้นก็คือ สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19
นอกจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 แล้ว สิ่งที่เป็นปัญหาสำคัญที่ก่อให้เกิดความเสียหายอย่างมากในทุกๆ ช่วงเทศกาลปีใหม่ วันหยุดยาวอื่นๆ หรือแม้แต่ในช่วงเวลาปกติ ก็คือ ปัญหาอุบัติเหตุ
ความพยายามเอาชนะการแพร่ระบาดของโควิด-19 ถูกนำมาเปรียบเทียบกับสถานการณ์อุบัติเหตุทางถนนว่า อะไรมีโอกาสทำให้เกิดการเสียชีวิตได้มากกว่ากัน แน่นอนว่าการที่พวกเราทุกคนมีความตระหนักถึงความจำเป็นในการต้องดูแล ป้องกันตัวเองจากโควิด-19 ด้วยการสวมหน้ากาก เว้นระยะห่าง และหมั่นล้างมือบ่อยๆ เป็นเรื่องที่ดีอยู่แล้ว
แต่จะดียิ่งกว่าไหม ถ้าหากพวกเราทุกคนตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาอุบัติเหตุและความปลอดภัยทางถนนเช่นเดียวกัน ด้วยการสวมหมวกกันน็อค หรือคาดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้งเมื่อเดินทาง ไม่ว่าจะในระยะใกล้หรือไกล รวมทั้งไม่ลืมที่จะเช็กความพร้อมของทั้งคนและรถก่อนเดินทางเสมอ
และสิ่งสำคัญที่สุด คือ ดื่มไม่ขับเด็ดขาด เพราะหากเกิดความผิดพลาดขึ้นมา นั่นอาจหมายถึงอันตรายถึงชีวิต
นางสาวรุ่งอรุณ ลิ้มฬหะภัณ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงทางสังคม สสส. กล่าวว่า สสส.และภาคีเครือข่ายด้านความปลอดภัยทางถนน เห็นความสำคัญของปัญหาการเจ็บตายจากอุบัติเหตุทางถนน จึงร่วมกันสร้างความปลอดภัยทางถนนของประเทศไทยมากว่า 18 ปี
โดยมุ่งเน้นการสนับสนุนกลไกการทำงานให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเกิดการบูรณาการกันในระดับจังหวัด อำเภอ และท้องถิ่น สนับสนุนงานวิชาการเพื่อขับเคลื่อนนโยบายและสังคม
ปัจจุบันให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุที่เกิดจาก “รถจักรยานยนต์” ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุมากถึงร้อยละ 80 และ 2 ใน 3 ของการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนนั้นมีสาเหตุมาจาก “การขับรถเร็ว” การขับด้วยความเร็วสูงคนขับจะควบคุมรถหรือหลบหลีกอุบัติเหตุได้ยากขึ้น ทำให้ความรุนแรงเพิ่มขึ้นเมื่อเกิดอุบัติเหตุ จึงควรเว้นระยะห่างจากคันหน้าไม่ต่ำกว่า 60 เมตร เพื่อระยะการหยุดรถที่ปลอดภัย
นางสาวรุ่งอรุณ กล่าวต่อว่า เทศกาลปีใหม่ 2564 ที่กำลังจะมาถึงนี้ สสส.ร่วมกับภาคีเครือข่าย สื่อสารรณรงค์เพื่อกระตุ้นเตือนการขับขี่อย่างปลอดภัย ภายใต้แคมเปญรณรงค์ ‘ลดเร็ว ลดเสี่ยง’ และ ‘กลับบ้านปลอดภัย’ โดยเผยแพร่ผ่านสื่อต่างๆ ทั่วประเทศ
เพื่อชี้ให้เห็นถึงความรุนแรงของการขับเร็วที่คนส่วนใหญ่มักคิดว่าไม่เร็ว แต่ความจริงแล้ว การใช้ความเร็วในการขับขี่บนท้องถนน 80 กม./ชั่วโมงนั้น ต้องเผื่อระยะเบรกกว่า 38 เมตร จึงจะปลอดภัย และยังรวมกับระยะสายตาจะมองเห็นและสมองจะสั่งการให้มือกำเบรก อีก 2.3 วินาที หรือคิดเป็นระยะเบรกที่เพิ่มมาอีก 15 เมตร ซึ่งไม่มีทางเบรกทันแน่นอน
ดังนั้น ความเร็วที่ 80 ก็สามารถทำให้ผู้ขับขี่มีโอกาสเสียชีวิตได้ เพราะการชนที่ความเร็ว 80 กม. แรงกระแทกจะเท่ากับการตกตึก 8 ชั้น
“ส่วนสปอตกลับบ้านปลอดภัย เรื่อง “กล้อง CCTV” มุ่งหวังกระตุ้นเตือน กระตุก ให้ผู้ขับขี่ทุกคนได้ตระหนักว่า “อุบัติเหตุ ทุกคนมีส่วนที่จะเลือกให้เกิด หรือลดความเสี่ยงเองได้ จึงอยากขอให้ทุกคนร่วมกันปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด” นางสาวรุ่งอรุณ กล่าว
ผู้สนใจสปอตรณรงค์ต่างๆ สามารถรับชมข้อมูลเพิ่มเติมและดาวน์โหลดได้ที่...http://ssss.network/lsicg
ด้านนายพรหมมินทร์ กัณธิยะ ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ (สคอ.) กล่าวว่า การเดินทางในช่วงเทศกาลนั้น มักใช้ความเร็วสูง และนิยมไปกันหมู่คณะ ทำให้มีความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุมากยิ่งขึ้น
ดังนั้น จึงต้องคำนึงถึงเรื่องความปลอดภัยเป็นหลัก ขอเชิญชวนทุกท่านมาใช้ชีวิตแบบวิถีใหม่ สร้างการขับขี่อย่างความปลอดภัยควบคู่กับการเผชิญหน้ากับโควิด จะได้ปลอดภัยทั้งเรื่องสุขภาพและการเดินทาง
ทุกวันนี้เมื่อเราจะออกนอกบ้าน เราต้องสวมหน้ากากทุกครั้ง หากเราจะเดินทางเราก็ควรสวมหมวกกันน็อกหรือคาดเข็มขัดนิรภัยขณะขับขี่ทุกครั้งเช่นเดียวกัน เพื่อชีวิตปลอดภัยในทุกมิติ
อะไรบ้าง! ที่ต้องพร้อมเมื่อขับขี่?
1. คน เมื่อต้องเดินทางไกล หรือขับขี่ในช่วงเทศกาล ต้องเตรียมพร้อมมากกว่าปกติ เพราะการจราจรที่คับคั่งจะเพิ่มความเหนื่อยล้าได้มากกว่าการเดินทางในช่วงปกติ
ก่อนขับรถ : พักผ่อนให้เพียงพอ งดดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงก่อนขับ 24 ชั่วโมง
ระหว่างขับรถ : ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เด็ดขาด เตรียมผ้าเย็น ขนมแก้ง่วง เคารพกฎจราจร
2.รถ ถือเป็นสิ่งสำคัญในการเดินทาง ฉะนั้น ก่อนออกเดินทางไกลทุกครั้ง จึงต้องเตรียมให้พร้อม โดยเฉพาะอุปกรณ์เพิ่มความปลอดภัย อย่าง เบรก ยางรถ หมวกกันน็อก อุปกรณ์ชุดเซฟตี้
3.ถนน ศึกษาเส้นทางที่ต้องเดินทางไป ว่ามีความเสี่ยงจุดใดบ้าง มีทางเลี่ยง ทางลัดจุดใด และลักษณะถนนโค้งมากน้อยขนาดไหน โดยเฉพาะเมื่อต้องเดินทางไปในเส้นทางที่ไม่คุ้นเคย
เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ที่ใกล้จะมาถึงนี้ สสส.อยากให้ทุกคนเดินทางด้วยความระมัดระวัง ปลอดภัยจากอุบัติเหตุและโรคภัยต่างๆ ขับขี่ยานพาหนะที่ความเร็วไม่เกิน 80 กม./ชม. คาดเข็มขัดนิรภัยไว้ตลอดการเดินทาง เมื่อรู้สึกง่วง หรือเหนื่อยล้าให้เปลี่ยนคนขับ หรือจอดแวะพักตามจุดพักรถข้างทาง
รวมทั้งสวมหน้ากาก หมั่นล้างมือบ่อยๆ ไม่ไปในพื้นที่เสี่ยง หรือพื้นที่แออัดที่มีการรวมกลุ่มของคนจำนวนมาก ร่วมกันสร้างความรับผิดชอบส่วนตัวเพื่อส่วนรวม ใช้ชีวิตวิถีใหม่รับปีใหม่ไปด้วยกัน
(โปรดกดถูกใจเพจ Edunewssiam ด้านล่าง เพื่อรับข่าวสารอัพเดตในฟีดข่าว)
