วิทยาลัย สอศ.หลาย จว.ได้รับประสานตั้ง'รพ.สนาม-สถานกักตัว-LQ-ศูนย์พักคอย'

 

 

ดร.สุเทพ แก่งสันเทียะ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) เปิดเผยว่า จากแนวนโยบาย น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้มอบหมายให้องค์กรบริหารหลักของ ศธ.ดูแลการปรับพื้นที่สถานศึกษาในสังกัดเป็นโรงพยาบาลสนาม เพื่อรองรับประชาชนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 โดยเฉพาะในพื้นที่ควบคุมสูงสุดสีแดงเข้มนั้น

ในส่วนของสถานศึกษาสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ได้รับการรายงานจากสถานศึกษาที่ได้รับการประสานจากทางจังหวัด สาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการขอใช้พื้นที่เป็นโรงพยาบาลสนาม จำนวน 7 แห่ง ดังนี้ 1. วิทยาลัยการอาชีวศึกษาปทุมธานี ใช้พื้นที่อาคารอเนกประสงค์ อาคารเรียน 3 และพื้นที่ศูนย์ประชุมฯ 2.วิทยาลัยเทคนิคบ้านแพง จังหวัดนครพนม

3.วิทยาลัยการอาชีพเวียงสระ จังหวัดสุราษฎร์ธานี 4.วิทยาลัยเทคนิคน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น 5.วิทยาลัยการอาชีพเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 6.วิทยาลัยเทคโนโลยีวานรนิวาส จังหวัดสกลนคร และ 7.วิทยาลัยพานิชยการหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

วิทยาลัยเทคนิคมีนบุรี และวิทยาลัยอาชีวศึกษาเอี่ยมละออ กรุงเทพมหานคร ซึ่งอยู่ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดสีแดงเข้ม ได้รับการประสานเพื่อขอใช้พื้นที่เป็นสถานที่กักตัวในชุมชน community isolation จากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

นอกจากนี้ มีวิทยาลัยอาชีวะที่ได้รับการประสานเพื่อใช้พื้นที่เป็นศูนย์ปฏิบัติการสถานกักกันโรค Local Quarantine (LQ) และควบคุมโรคติดต่อ จำนวน 6 แห่ง ประกอบด้วย 1.วิทยาลัยเทคนิคพิมาย จังหวัดนครราขสีมา 2.วิทยาลัยการอาชีพแก้งคร้อ จังหวัดชัยภูมิ 3.วิทยาลัยอาชีวศึกษาไทเฉลิมราชชัยภูมิ 4.วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีสุราษฎร์ธานี 5.ศูนย์ฝึกอบรมวิชาชีพ อำเภอควนโดน จังหวัดสตูล และ 6.วิทยาลัยการอาชีพนาแก จังหวัดนครพนม

วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีสุโขทัย ได้รับการประสานเพื่อขอใช้พื้นที่เป็นศูนย์พักคอยของผู้ที่มีความเสี่ยงหรือผู้ที่เดินทางมาจากจังหวัดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด รวมทั้งสถาบันการอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 1​ ซึ่งตั้งอยู่ภายในวิทยาลัยเทคนิคหนองคาย ได้รับการประสานจาก ศบค.จังหวัดหนองคาย ขอใช้พื้นที่หอประชุมสถาบันฯเพื่อตั้งโรงพยาบาลสนามแห่งที่ 3 ของจังหวัด เพื่อรองรับผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 

 

(โปรดกดถูกใจเพจด้านล่าง เพื่อติดตามข่าวสารบนเว็บไซต์ edunewssiam.com)