ก.ค.ศ.อนุมัติคืนอัตราเกษียณ'64 กว่า 2 หมื่น ไฟเขียวเกณฑ์ประเมินผลงานครูฯ

 

ก.ค.ศ.จัดสรรคืนอัตราเกษียณ'64 รวม 20,453 อัตรา

 

อนุมัติหลักเกณฑ์ประเมินผลปฏิบัติงานครูฯ

 

ไฟเขียวรายละเอียดคัดเลือก'รอง ผอ.อาชีวะ'

 

 

เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2564 นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) เปิดเผยผลประชุมคณะกรรมการ ก.ค.ศ.ครั้งที่ 8/2564 ว่า ที่ประชุม ก.ค.ศ.ได้อนุมัติเรื่องสำคัญ อาทิ

1.อนุมัติ (ร่าง) หลักเกณฑ์และวิธีการประเมินผลการปฏิบัติงานของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา

 

โดยสืบเนืองจากที่ ก.ค.ศ.ได้กำหนดมาตรฐานตำแหน่งและมาตรฐานวิทยฐานะของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ว 3/2564) รวมถึงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินตำแหน่งและวิทยฐานะของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาใหม่ ทั้ง 4 สายงาน (ว 9 - ว 12 /2564)

 

หลักเกณฑ์และวิธีการฯดังกล่าว จะสอดคล้องกับระบบการประเมินผลการปฏิบัติงาน โดยกำหนดให้นำผลการประเมินการพัฒนางานตามข้อตกลง (Performance Agreement : PA) ไปใช้เป็นองค์ประกอบในการประเมินประสิทธิภาพและประสิทธิผลการปฏิบัติงาน เพื่อลดความซ้ำซ้อนจากการประเมิน ลดภาระงานของข้าราชการครูฯ ลดภาระด้านงบประมาณภาครัฐ รวมทั้งเกิดการเชื่อมโยงบูรณาการกันระหว่างการประเมินแต่ละระบบ

 

ซึ่ง ก.ค.ศ.ในคราวประชุมครั้งที่ 7/2564 เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2564 ได้มีมติอนุมัติหลักการการประเมินผลการปฏิบัติงานของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา โดยให้กำหนดรูปแบบการประเมินที่ใช้ตัวชี้วัดเดียวกัน เพื่อให้สามารถนำผลการประเมินมาใช้ ทั้งการประเมินเพื่อให้มีและเลื่อนวิทยฐานะ การประเมินเพื่อคงวิทยฐานะ รวมทั้งการประเมินผลการปฏิบัติงานเพื่อเลื่อนเงินเดือน ที่เน้นระบบการประเมินแบบ Performance-based Appraisal เป็นหลัก

 

โดยใช้ระบบการประเมินแบบ Result-based Appraisal ร่วมด้วย โดยทุกตำแหน่งจัดทำข้อตกลงในการพัฒนางาน (PA) (ยกเว้นครูผู้ช่วย) ซึ่งสาระสำคัญของ (ร่าง) หลักเกณฑ์และวิธีการนี้ ประกอบด้วย

 

องค์ประกอบการประเมิน (100 คะแนน) มี 3 องค์ประกอบ 1) การประเมินประสิทธิภาพและประสิทธิผลการปฏิบัติงาน 80 คะแนน 2) การประเมินการมีส่วนร่วมในการพัฒนาการศึกษา 10 คะแนน 3) การประเมินการปฏิบัติตนในการรักษาวินัยฯ 10 คะแนน

 

เครื่องมือการประเมินข้อตกลง PA เพื่อเลื่อนวิทยฐานะ การประเมินคงวิทยฐานะ และการประเมินผลการปฏิบัติงาน ใช้ตัวชี้วัดชุดเดียวกัน

 

วิธีการประเมิน 1) องค์ประกอบที่ 1 รอบที่ 1 1.นำ PA มากำหนดขอบเขตผลการปฏิบัติงานที่คาดหวัง 2.ให้ประเมินตามขอบเขตผลการปฏิบัติงานที่คาดหวัง, รอบที่ 2 ให้นำผลการประเมิน PA มาใช้ประกอบการพิจารณา

 

2) องค์ประกอบที่ 2 และ 3 ทั้ง 2 รอบ ให้ประเมินตามสภาพการปฏิบัติงานและการปฏิบัติตน

 

การนำผลการประเมินไปใช้ การพิจารณาเลื่อนเงินเดือน การประเมินคงวิทยฐานะ การเป็นคุณสมบัติในการเลื่อนวิทยฐานะ

 

2.เห็นชอบรายละเอียดการดำเนินการเกี่ยวกับการคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสถานศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา

 

โดยสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ขอให้ ก.ค.ศ.พิจารณาให้ความเห็นชอบรายละเอียดการดำเนินการเกี่ยวกับการคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสถานศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เนื่องจากหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกบุคคล เพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสถานศึกษา และผู้อำนวยการสถานศึกษา ตามหนังสือสำนักงาน ก.ค.ศ. ที่ ศธ 0206.6/ว 8 ลงวันที่ 26 เมษายน 2562 ข้อ 5 กำหนดให้ส่วนราชการดำเนินการเกี่ยวกับการคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสถานศึกษาหรือผู้อำนวยการสถานศึกษา แล้วแต่กรณี

 

เมื่อส่วนราชการดำเนินการตามข้อ 5 แล้ว ให้นำเสนอ ก.ค.ศ.พิจารณาให้ความเห็นชอบก่อนแจ้ง กศจ.หรือ อ.ก.ค.ศ. ที่ ก.ค.ศ.ตั้ง ดำเนินการต่อไป โดย สอศ.ได้ดำเนินการจัดทำรายละเอียดเกี่ยวกับการคัดเลือกบุคคลฯ ดังนี้

 

องค์ประกอบในการคัดเลือก มีการทดสอบ 3 ภาค ภาค ก สมรรถนะในการบริหารงาน (คะแนนเต็ม 100 คะแนน), ภาค ข ความเหมาะสมกับการปฏิบัติงานในหน้าที่ (คะแนนเต็ม 150 คะแนน) ภาค ค ความเหมาะสมกับตำแหน่ง (คะแนนเต็ม 100 คะแนน)

 

ให้ดำเนินการประเมินตามตัวชี้วัดองค์ประกอบการประเมิน คะแนนการประเมิน กรอบการพิจารณา และวิธีการประเมินตามที่กำหนดไว้ในใบสมัคร

 

เกณฑ์การตัดสิน ผู้ผ่านการคัดเลือกภาค ก ต้องได้คะแนนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 60 จึงมีสิทธิเข้ารับการประเมินภาค ข และภาค ค ผู้ผ่านภาค ข และภาค ค แต่ละภาคต้องได้คะแนนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 60 และได้คะแนนรวมทั้ง 3 ภาค แล้ว ไม่น้อยกว่าร้อยละ 60 โดยให้ประกาศรายชื่อเรียงตามลำดับคะแนนรวม ภาค ก ภาค ข และภาค ค จากมากไปหาน้อย กรณีคะแนนรวมเท่ากัน ให้ผู้ได้คะแนนภาค ข มากกว่าอยู่ในลำดับที่ดีกว่า หากคะแนนภาค ข เท่ากัน ให้ผู้ได้คะแนนภาค ค มากกว่าอยู่ในลำดับที่ดีกว่า หากคะแนน ค ยังเท่ากันอีก ให้ผู้อาวุโสเป็นผู้อยู่ในลำดับที่ดีกว่า

 

เงื่อนไขการขึ้นบัญชี ขึ้นบัญชีผู้ได้รับการคัดเลือกไว้ไม่เกิน 2 ปี นับแต่วันที่ประกาศขึ้นบัญชี

 

ก.ค.ศ.พิจารณาแล้วเห็นว่า รายละเอียดการดำเนินการเกี่ยวกับการคัดเลือกฯ ที่ สอศ.เสนอ เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการฯ ที่ ก.ค.ศ. กำหนด (ว 8/2562) และเป็นไปตามมติ ก.ค.ศ. ในการประชุมครั้งที่ 11/2562 เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2562 ซึ่งกำหนดให้เพิ่มระยะเวลาการประเมินสัมฤทธิผลการปฏิบัติงานในหน้าที่เพื่อพัฒนาการศึกษา จาก 6 เดือน เป็น 1 ปี

 

นอกจากนี้ ยังสอดคล้องกับมาตรฐานตำแหน่งและมาตรฐานวิทยฐานะของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งรองผู้อำนวยการสถานศึกษา (ว 3/2564) บริบทของสถานศึกษา และหน้าที่ของผู้บริหารสถานศึกษา ในการบริหารกิจการของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา จึงมีมติเห็นชอบรายละเอียดการดำเนินการเกี่ยวกับการคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสถานศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ตามที่สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาเสนอ

 

3.อนุมัติจัดสรรคืนอัตราว่างจากผลการเกษียณอายุราชการของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา เมื่อสิ้นปีงบประมาณปี พ.ศ.2564 ให้กับส่วนราชการต่างๆ รวม 20,453 อัตรา ดังนี้

 

สังกัดสำนักงานคณะะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) รวม 19,339 อัตรา ได้แก่ ผอ.สพท. 42 อัตรา, รอง ผอ.สพท.(ตำแหน่งโครงสร้าง) 60 อัตรา, ผอ.สถานศึกษา 2,046 อัตรา, รอง ผอ.สถานศึกษา 186 อัตรา, ครูผู้ช่วย 16,553 อัตรา, ศึกษานิเทศก์ 128 อัตรา, บุคลากรทางการศึกษาอื่น ตาม ม.38 ค.(2) 292 อัตรา, พนักงานราชการ 32 อัตรา โดยสงวนอัตราว่างจากโครงการผลิตครูเพื่อพัฒนาท้องถิ่น จำนวน 5,041 อัตรา

 

สังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (สป.ศธ.) รวม 156 อัตรา ประกอบด้วย สำนักงาน กศน. ตำแหน่ง ผอ.สนง.กศน.จังหวัด 6 อัตรา, รอง ผอ.สนง.กศน.จังหวัด 4 อัตรา, ครูผู้ช่วย 48 อัตรา, ศึกษานิเทศก์ 10 อัตรา, บุคลากรทางการศึกษาอื่น ตาม ม.38 ค.(2) 13 อัตรา, พนักงานราชการ 1 อัตรา โดยสงวนอัตราว่างจากโครงการผลิตครูเพื่อพัฒนาท้องถิ่น จำนวน 6 อัตรา และ สป.ศธ.(เดิม) ได้แก่ ศึกษาธิการจังหวัด 13 อัตรา, รองศึกษาธิการจังหวัด 2 อัตรา, ศึกษานิเทศก์ 42 อัตรา, บุคลากรทางการศึกษาอื่น ตาม ม.38 ค.(2) 46 อัตรา, พนักงานราชการ 5 อัตรา รวม 108 อัตรา

 

และ สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) รวม 850 อัตรา ได้แก่ ผอ.สถานศึกษา 51 อัตรา, รอง ผอ.สถานศึกษา 49 อัตรา, ครูผู้ช่วย 738 อัตรา, ศึกษานิเทศก์ 1 อัตรา, บุคลากรทางการศึกษาอื่น ตาม ม.38 ค.(2) 10 อัตรา, พนักงานราชการ 1 อัตรา โดยสงวนอัตราว่างจากโครงการผลิตครูเพื่อพัฒนาท้องถิ่น จำนวน 275 อัตรา

 

 

 (โปรดกดถูกใจเพจด้านล่าง เพื่อติดตามข่าวสารบนเว็บไซต์ edunewssiam.com)