"อัมพร"แจงมติบอร์ด กพฐ.7 เม.ย.65
ยังไม่ได้ให้ใช้หลักสูตรสมรรถนะ
ยันต้องผ่านขั้นตอนตรวจสอบอีกยาว
ผู้สื่อข่าว สำนักข่าวการศึกษาออนไลน์ EdunewsSiam.com รายงานเมื่อวันที่ 20 เมษายน 2565 ว่า ดร.อัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ในฐานะกรรมการและเลขานุการบอร์ด กพฐ. ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนประจำกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ชี้แจงถึงการประชุมคณะกรรมการ กพฐ.ที่มี ศาสตราจารย์บัณฑิต เอื้ออาภรณ์ อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นประธาน เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2565 ยังไม่ได้มีมติเห็นชอบการใช้หลักสูตรแกนกลางฐานสมรรถนะ แทนหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2551 ปรับปรุง พ.ศ.2560
เพียงแค่ที่ประชุมบอร์ด กพฐ.ได้เห็นชอบการแต่งตั้งคณะทำงานบรรณาธิการกิจ เพื่อทำหน้าที่ตรวจทานรายละเอียดการปรับปรุงร่างหลักสูตรฐานสมรรถนะ รวมทั้งพิจารณาเรื่องชื่อหลักสูตรใหม่นี้ด้วย เพราะไม่อยากสร้างความสับสนแก่สถานศึกษาที่นำไปใช้ ตามที่คณะอนุกรรมการ กพฐ.ด้านคุณภาพและเทคโนโลยีเพื่อการเรียนรู้ และสำนักวิชาการและมาตฐานการศึกษา (สวก.) สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ร่วมนำเสนอ
เลขาธิการ กพฐ.กล่าวชี้แจงต่อว่า การปรับปรุงหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน ต้องแยกให้ชัดเจนก่อนว่า ขณะนี้มีหลักสูตรแกนกลางการการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2551 ที่เป็นฉบับปรับปรุงใหม่ พ.ศ.2560 ที่เน้นการจัดการเรียนการสอนในรูปแบบ Active Learning หรือกระบวนการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนได้ลงมือกระทำ ซึ่งก็คือรูปแบบการจัดการเรียนการสอนตามหลักสูตรฐานสมรรถนะอยู่แล้ว
"ส่วนการปรับปรุงหลักสูตรฐานสมรรถนะ ขณะนี้อยู่ระหว่างกระบวนการนำร่องทดลองใช้ในโรงเรียนในเขตพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา อีกทั้งมีกลไกกระบวนการของการปรับปรุงอีกหลายขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบ การทดลองใช้หลักสูตรในโรงเรียนทั่วไป และการพัฒนาครูผู้สอน ซึ่งจะต้องใช้ระยะเวลาในการเตรียมความพร้อมอีกหลายขั้นตอน รวมถึงการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบหลักสูตรอีกหลายชุด ก่อนที่จะประกาศใช้หลักสูตรฐานสมรรถนะอย่างเป็นทางการได้” ดร.อัมพร กล่าว
อนึ่ง ก่อนหน้านี้ ดร.สุภัทร จำปาทอง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนประจำ ศธ. แสดงความวิตกกังวลจากที่ปรากฏข่าวในสื่อสารมวลชนเรื่องมติ กพฐ. ครั้งที่ 4/2565 วันที่ 7 เมษายน 2565 ที่ให้ทดลองใช้ร่างหลักสูตรสมรรถนะในโรงเรียนนำร่องในพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา ปีการศึกษา 2565 จากนั้นปีการศึกษา 2566 ทดลองใช้ในโรงเรียนทั่วไปที่พร้อมใช้ และปีการศึกษา 2567 โรงเรียนทั่วประเทศใช้หลักสูตรฯชั้น ป.1 และ ป.4 รวมทั้งยังได้ขอร่นเวลาการประกาศใช้หลักสูตรฯจากเดือนตุลาคม 2566 เป็นเดือนตุลาคม 2565 นั้น
ปลัด ศธ.กล่าวว่า ตนยังไม่ทราบรายละเอียดที่จู่ๆ กพฐ.ก็มีมติให้ประกาศใช้ร่างหลักสูตรสมรรถนะทั่วประเทศ จึงต้องสอบถามในที่ประชุม กพฐ.ครั้งหน้า เพราะมติ กพฐ.ก่อนหน้านี้ให้นำร่องใช้ร่างหลักสูตรฯในพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาไปก่อน ตามข้อสั่งการของ ดร.วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ยังไม่ต้องขยายไปทั่วประเทศ เพราะยังเป็นเรื่องใหม่
มติ กพฐ.เดิมให้นำร่องใช้ร่างหลักสูตรสมรรถนะในเขตพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา และหากโรงเรียนอื่นๆ จะใช้ ให้ขออนุญาตจาก สพฐ.เป็นรายโรงไป ผมจึงไม่แน่ใจว่า กพฐ.จะใช้ช่องว่างตรงนี้ในการประกาศใช้ทั่วประเทศหรือไม่ ซึ่งผมมีความกังวลทั้งในเรื่องความพร้อมของครูผู้สอน เรื่องการปรับเปลี่ยนหนังสือเรียนและวัสดุอุปกรณ์การเรียนการสอน ซึ่งจะต้องสอดคล้องกับหลักสูตรใหม่ นี่ยังไม่รวมปัญหาในการผลิตครูของสถาบันผลิตครูที่จะต้องปรับเปลี่ยนตามไปด้วย
ดังนั้น การปรับเปลี่ยนหลักสูตรการศึกษาแต่ละครั้ง จึงจะต้องเป็นไปตามขั้นตอน ต้องมีการนำร่องทดลองใช้ เพื่อดูข้อดี ข้อเสีย แล้วนำมาปรับปรุงพัฒนาก่อนขยายผลนำไปใช้ทั่วประเทศ ซึ่งขั้นตอนทั้งหมดนี้ต้องใช้เวลา ไม่ใช่เปลี่ยนแบบทันที
“ที่สำคัญการปรับเปลี่ยนหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานในแต่ละครั้ง กพฐ.ควรจะต้องดูทิศทางของคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านการศึกษาด้วย ซึ่งเสียงส่วนใหญ่ของคณะกรรมการฯให้มุ่งเน้นอบรมพัฒนาครูให้จัดการเรียนรู้ในรูปแบบ Active Learning” ดร.สุภัทร ปลัด ศธ. กล่าวย้ำถึงขั้นตอนการปรับเปลี่ยนหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน ที่บอร์ด กพฐ.ควรต้องคำนึงถึง
(โปรดกดถูกใจเพจด้านล่าง เพื่อติดตามข่าวสารบนเว็บไซต์ edunewssiam.com)