กระตุก ศธ.ถอย!หลักสูตรสมรรถนะ

เผยนายกฯสั่งเบรก-ขัดรัฐธรรมนูญ 2560

'องค์กรครู'ลั่น ยังไม่วางใจพวกดันทุรัง

ศ.กิตติคุณ ดร.วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ให้สัมภาษณ์ถึงนโยบายการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษา ที่ตึกนารีสโมร ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2565 ว่า การปฏิรูปการศึกษาที่ขับเคลื่อนจะยึดตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 มาตรา 258 จ (4) ซึ่งได้นำไปสู่การกำหนดแผนปฏิรูปประเทศด้านการศึกษา (ฉบับปรับปรุง 2564) ที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา 

โดยได้กำหนดให้โรงเรียนในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กระทรวงมหาดไทย (มท.) องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น กรุงเทพมหานคร ใช้หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง 2560) ในปัจจุบัน ซึ่งได้กำหนดมาตรฐานการเรียนรู้ ความรู้ ทักษะ เจตคติ คุณลักษณะ และสมรรถนะไว้อย่างสมบูรณ์แล้ว เพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ และผลงานจากการเรียนรู้ที่มีคุณค่า

และให้เพิ่มพูนศักยภาพในการจัดกระบวนการเรียนรู้แบบ Active Learning ด้วยกระบวนการคิดขั้นสูงเชิงระบบ และการวัดผลประเมินผลเพื่อการพัฒนาผู้เรียนให้เหมาะสม สอดคล้อง และตอบสนองต่อหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2551 (ฉบับปรับปรุง 2560)

"เรื่องนี้ผมได้นำเรียน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แล้ว ท่านก็เห็นด้วยให้ใช้หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง 2560) ในปัจจุบัน ยังไม่มีความจำเป็นต้องเปลี่ยนไปใช้หลักสูตรอื่น"

รองนายกฯวิษณุกล่าวต่อว่า สำหรับโรงเรียนในเขตพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา 8 จังหวัด สามารถพัฒนาเพิ่มเติมเนื้อหาสาระการเรียนรู้ ทักษะ เจตคติ ค่านิยม คุณลักษณะและสมรรถนะที่เหมาะสม และสอดคล้องกับบริบทของชุมชน ท้องถิ่น มาเพิ่มเติมให้เหมาะสมกับบริบทแต่ละพื้นที่ของแต่ละสถานศึกษาที่มีความแตกต่างกันได้ แต่ยังคงให้มีสาระสำคัญตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง 2560) อย่างครบถ้วน ไม่ขาดหาย

"ส่วนพื้นที่อื่นๆ ทั่วไป ก็ยังใช้หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง 2560) ในปัจจุบัน ต่อไป"

ดร.วิษณุยังกล่าวย้ำด้วยว่า ตนไม่อยากให้เรียกหลักสูตรฐานสมรรถนะ เพราะคำว่าฐานสมรรถนะ ตนไม่รู้จัก ไม่รู้ความหมาย อย่างไณก็ตาม สิ่งสำคัญที่ได้พูดคุยกันไว้กับ น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ คือต้องมีการปรับวิธีการจัดการเรียนการสอนโดยนำวิธีการเรียนแบบ Active Learning เข้ามาให้มาก แล้วให้ครูและนักเรียนช่วยกันคิดออกมาเป็นนวัตกรรม ซึ่งที่ผ่านมา ศธ.ก็เคยจัดแสดงนวัตกรรมเหล่านี้มาแล้ว หากไประดมหามาก็จะมีหลายหมื่นชิ้น ซึ่งนั่นก็คือ การปฏิรูปการศึกษาอย่างแท้จริง

"เรื่องนี้ได้หารือกับ รมว.ศธ. และประธานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) รวมถึงกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษาแล้ว ก็เห็นพ้องต้องกัน” ดร.วิษณุ กล่าว

ด้าน นายสานิตย์ พลศรี นายกสมาคมครูชนบทจังหวัดชัยภูมิ ได้ให้ความเห็นว่า นับเป็นข่าวดีที่ได้เห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญและติดตามงานของ ศธ. โดยรับฟังเสียงจากสื่อ และคำนึงถึงผลกระทบทั้งการจัดพิมพ์ตำราเรียนใหม่ ซึ่งจะเป็นภาระของครู ผู้ปกครอง และนักเรียนในยามที่เศรษฐกิจตกต่ำดังเช่นปัจจุบัน

"ถ้าเปลี่ยนหลักสูตรก็ต้องซื้อตำราใหม่ ครูก็ต้องอบรมใหม่ ซึ่งจะเป็นภาระเพิ่มขึ้น จึงไม่ประสงค์ให้เกิดภาระดังกล่าว ในขณะนี้ยังไม่มีความจำเป็นต้องเปลี่ยนไปใช้หลักสูตรอื่น เห็นด้วยให้ใช้หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง 2560) ในปัจจุบัน ต่อไป"

เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์สั่งให้รองนายกฯวิษณุ เครืองาม แถลงให้กระทรวงศึกษาธิการถอยเรื่อง “หลักสูตรฐานสมรรถนะ” จึงเป็นเรื่องที่ ศธ.เองไม่ควรดึงดันต่อไป เนื่องจากการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานด้วยการปรับหลักสูตรใหม่ หรือที่เรียกกันว่าหลักสูตรสมรรถนะนั้น ตามกฎหมายมิได้บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญพุทธศักราช 2560 แต่ในกระทรวงศึกษาธิการยังมีคนดันทุรังจะให้มีการปรับหลักสูตร

"แม้แต่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการยังคล้อยตามคนกลุ่มนี้ จนผมเองต้องออกโรงเตรียมยื่นฟ้องต่อศาลปกครองสูงสุด และแจ้งความอาญา 157 เพื่อเอาผิดฐานละเมิดข้อกฎหมาย จนกระทั่งนายกรัฐมนตรีต้องออกมาแก้ไขปัญหาด้วยตัวเอง" นายกสมาคมครูชนบทจังหวัดชัยภูมิ กล่าว

“อย่างไรก็ตาม แม้ว่ารองนายกฯวิษณุจะออกมาบอกว่า ได้หารือกับรัฐมนตรีว่าการ ศธ.  ประธาน กพฐ. รวมถึงกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษาแล้ว เห็นพ้องต้องกัน และได้นำเรียน พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็เห็นชอบว่า ไม่ควรมีหลักสูตรใหม่ในตอนนี้ แต่ผมก็ยังไม่วางมือจากเรื่องนี้ จะขอตามติดต่อไป เนื่องจากไม่เชื่อว่าคนกลุ่มที่พยายามผลักดันเรื่องหลักสูตรสมรรถนะจะไม่ยอมถอยจริง” นายสานิตย์ กล่าว

(โปรดกดถูกใจเพจ Edunewssiam ด้านล่างขวา เพื่อรับข่าวสารอัพเดตในฟีดข่าว)