สพฐ.รุกเติมศักยภาพ น.ร. ในภาวะ Learning Loss

สพฐ.รุกเติมศักยภาพนักเรียน

ในภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ (Learning Loss)

เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2565 นายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้มอบหมายนางเกศทิพย์ ศุภวานิช รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการการใช้งานระบบสำรวจแววความสามารถพิเศษนักเรียนตามความถนัดและเพื่อเติมความรู้และทักษะให้กับเด็กในภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ (Learning Loss) ด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ อันจะนำไปสู่การพัฒนานักเรียนตามความถนัด จะได้เรียนอย่างมีความสุขและตรงตามศักยภาพนักเรียนบนฐานพหุปัญญา 8 ด้าน

ได้แก่ ด้านภาษา คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ เครื่องกลและอิเล็กทรอนิกส์ ศิลปะ/มิติสัมพันธ์ การได้ยิน การเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อ และด้านสังคมและอารมณ์ โดยมี ผู้อำนวยการกลุ่มพัฒนาการศึกษาฯ และคณะทำงานจากสำนักวิชาการฯ สพฐ. ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ผู้อำนวยการสถานศึกษา ศึกษานิเทศก์ นักวิชาการและครู เข้าประชุมร่วมสร้างความรู้ความเข้าใจ

 

 

นางเกศทิพย์ กล่าวผ่านระบบการประชุมทางไกล (Video Conference) ว่า การพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพ และแนวทางนำระบบสำรวจแววความสามารถพิเศษด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ไปใช้ในการพัฒนาผู้เรียนอย่างเป็นระบบให้ประสบความสำเร็จได้นั้น ต้องคำนึงถึงพระบรมราโชบายด้านการศึกษา 4 ประการ ของ พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รวมถึงทักษะจำเป็นในศตวรรษที่ 21 แผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2561-2580) และแผนปฏิรูปประเทศด้านการศึกษา รวมทั้งตัวชี้วัดคุณภาพผู้เรียนของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานด้วย

สำหรับเป้าหมายในการสำรวจแววความสามารถพิเศษด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อใช้ในการคัดกรอง วิเคราะห์ และวินิจฉัยผู้เรียนรายบุคคล จะทำให้นักเรียน ครู ผู้ปกครอง และผู้ที่รับผิดชอบในการจัดการศึกษา ได้ทราบถึงแววความสามารถพิเศษของนักเรียนในแต่ละด้าน ล้วนเป็นประโยชน์ในการจัดการศึกษาที่มีประสิทธิภาพ เหมาะสมกับนักเรียนรายบุคคล

และจากข้อมูลในการคัดกรองเกิดด้วยกระบวนการของระบบสำรวจแววความสามารถพิเศษฯในครั้งนี้ นอกจากนำมาใช้ในการออกแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อช่วยให้เกิดคุณภาพกับผู้เรียนแล้ว ยังถือเป็นการดึงศักยภาพและเติมเต็มสิ่งที่ขาดหายในตัวนักเรียนออกมาให้เห็นเป็นรายบุคคลที่แต่ละคนจะมีความแตกต่างหลากหลายได้รับการพัฒนาให้ยั่งยืนได้ เมื่อถูกนำไปใช้ในการพัฒนาการจัดการเรียนรู้ของครูและการสนับสนุนการบริหารจัดการศึกษาในทุกระดับ

 

 

โรงเรียนมีประโยชน์ต่อการวางแผนพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ส่งผลถึงคุณครูนำผลไปใช้วางแผนการออกแบบกิจกรรม จัดการเรียนรู้รายบุคคล ระดับเขตพื้นที่การศึกษา สามารถนำไปใช้ขับเคลื่อนคุณภาพการศึกษาระดับเขต และ ระดับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน นำไปใช้เป็นข้อมูลภาพรวมของประเทศในการกำหนดนโยบายทางการศึกษา ต่อไป

“จะเห็นได้ว่าระบบสำรวจแววความสามารถพิเศษด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ มีเป้าหมายเพื่อคัดกรองผู้เรียนที่มีแววความสามารถพิเศษและใช้ผลการคัดกรองพัฒนาผู้เรียนได้อย่างเหมาะสม โดยผลที่ได้นั้น ไม่ได้นำไปใช้ในการตัดสินผลหรือการจัดลำดับผู้เรียนแต่อย่างใด ซึ่งจะเริ่มดำเนินการร่วมกันในทุกพื้นที่ของประเทศตั้งแต่เดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป รวมถึงผู้บริหารโรงเรียน และเขตพื้นที่การศึกษา ที่เป็นฝ่ายสนับสนุนทำให้สามารถนำข้อมูลในการคัดกรองไปใช้ประโยชน์พัฒนาต่อยอดลงสู่นักเรียนได้อย่างแท้จริง” รองเลขาธิการ กพฐ.กล่าว

ทั้งนี้ ในการประชุมผ่านระบบ Zoom Meeting จำนวน 135 ยูสเซอร์ ประกอบด้วยบุคลากรในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา และสถานศึกษา  ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ผอ.สถานศึกษา ศึกษานิเทศก์ นักวิชาการและครู ใน 245 เขตฯ ทั่วประเทศ เข้าร่วมประชุม และมีผู้ที่สนใจรับชมผ่านช่องทาง OBEC Channel เป็นจำนวนมากกว่า 85,000 คน ทั้งในเพจ Facebook รวม 75,000 คน และในช่องทาง Youtube อีกกว่า 10,000 คน

 

(โปรดกดถูกใจเพจ Edunewssiam ด้านล่างขวา เพื่อรับข่าวสารอัพเดตในฟีดข่าว)