จม.เปิดผนึก! ดร.รัชชัยย์ถึง"ตรีนุช" หลักฐานใหม่ช่วยครู-ผอ.หลุดคดีฟุตซอล

จม.เปิดผนึก ดร.รัชชัยย์ถึง"ตรีนุช"

ว่าด้วยข้อเท็จจริงใหม่คดีฟุตซอล

ช่วยครู-ผอ.'ร.ร.-เขต'ลดโทษ-หลุดคดี

ผู้สื่อข่าว สำนักข่าวการศึกษาออนไลน์ EdunewsSiam.com รายงานว่า ดร.รัชชัยย์ ศรสุวรรณ นายกสมาคมพิทักษ์สิทธิผู้บริหาร ครูและบุคลากรทางการศึกษา (ส.พ.บ.ค.) ได้ทำจดหมายเปิดผนึกถึง น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) โดยเผยแพร่สู่สาธารณะผ่าน สำนักข่าวการศึกษาออนไลน์ EdunewsSiam.com เรื่อง "ข้อเท็จจริงใหม่เกี่ยวกับคดีฟุตซอล"

ซึ่ง ดร.รัชชัยย์ระบุว่า หลักฐานข้อเท็จจริงชิ้นนี้มีประโยชน์มาก อาจถึงขั้นช่วยทำให้บรรดาผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (ผอ.สพท.) ผู้อำนวยการโรงเรียน (ผอ.ร.ร.) และครูในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้รับการลดโทษหรือหลุดคดีจัดซื้อจัดจ้างสร้างสนามฟุตซอลในโรงเรียน สพฐ.หลายจังหวัด มูลค่ารวมหลายพันล้านบาท 

หลังจากที่ถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ตั้งข้อกล่าวหาและชี้มูลความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ราชการ และกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.๒๕๔๒ และต่อมา สพฐ.ได้ออกคำสั่งลงโทษไล่ออก 

โดยจดหมายเปิดผนึกถึง น.ส.ตรีนุช รมว.ศธ.มีรายละเอียดดังต่อไปนี้

สมาคมพิทักษ์สิทธิผู้บริหาร ครูและบุคลากรทางการศึกษา

วันที่ ๔ มิถุนายน ๒๕๖๕

เรื่อง​  ข้อเท็จจริงใหม่เกี่ยวกับคดีฟุตซอล  ​​​​​​              

เรียน​  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ  

สิ่งที่ส่งมาด้วย สำเนาหนังสือกรมบัญชีกลาง​ ที่ กค ๐๔๑๕.๔/​ล ๑๗๖๖ ลงวันที่ ๑๔ มกราคม ๒๕๖๕

​     ตามที่ ป.ป.ช.ได้ตั้งข้อกล่าวหาและได้ชี้มูลความผิดบรรดาผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา และผู้อำนวยการโรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานในความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ราชการ และกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.๒๕๔๒

ต่อมาสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้ลงนามคำสั่งลงโทษไล่ออก กรณีเรื่องการจัดซื้อจัดจ้างทำสนามฟุตซอล และขณะนี้กรณีกำลังอยู่ในระหว่างการไต่สวนของ ป.ป.ช.อีกหลายจังหวัด หลายสิบราย ความแจ้งแล้วนั้น

สมาคมพิทักษ์สิทธิ์ผู้บริหาร ครูและบุคลากรทางการศึกษา (ส.พ.บ.ค.) ขอเรียนว่า ข้อกล่าวหาหลักที่ ป.ป.ช.ได้ตั้งข้อกล่าวหาไว้และได้ชี้มูลความผิด คือเรื่องการกำหนดราคากลาง การได้มาซึ่งราคากลาง การสั่งซื้อแผ่นพื้นยางปูพื้นสนามที่มีการสั่งซื้อแผ่นพื้นที่มีคุณสมบัติใช้ในร่ม แต่ได้นำไปใช้กลางแจ้ง

โดยเรื่องนี้ผู้มีอำนาจได้มีการสอบสวนหาผู้รับผิดทางละเมิดเพื่อให้มีการชดใช้ค่าเสียหาย และเสนอกรมบัญชีกลางพิจารณาวินิจฉัยสั่งการให้มีการชดใช้ค่าเสียหาย

บัดนี้กรมบัญชีกลางได้พิจารณาแล้วมีความเห็นดังนี้

     ​๑. กรณีการกำหนดราคากลางโดยที่ไม่ได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการกำหนดราคากลางนั้น กรมบัญชีกลางพิจารณาจากข้อเท็จจริงที่รับฟังได้ว่า โรงเรียนได้รับเอกสารราคากลางจากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาที่มีการลงนามในเอกสารดังกล่าวโดยผู้เกี่ยวข้องแล้ว และมีช่องว่างเว้นที่ไว้ให้เจ้าหน้าที่พัสดุและผู้อำนวยการโรงเรียนลงนาม

เมื่อผู้อำนวยการโรงเรียนและเจ้าหน้าที่พัสดุลงนาม และได้เสนอกลับไปที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาแล้ว สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาก็ได้ลงนามรับรองแบบรูปรายการและราคากลาง

กรณีนี้กรมบัญชีกลางเห็นว่า การที่โรงเรียนไม่มีการแต่งตั้งคณะกรรมการกำหนดราคากลาง เป็นการกระทำด้วยความประมาทเลินเล่อ แต่ไม่ถึงขั้นประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง จึงไม่ต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่ทางราชการ

     ​๒. กรณีนำแผ่นยางสังเคราะหก์ (EVA) ที่ใช้งานในร่ม ไปใช้กับงานกลางแจ้ง กรมบัญชีกลางพิจารณาแล้วเห็นว่า แผ่นยางทุกด้านมีลักษณะคล้ายตัวจิ๊กซอว์ที่สามารถประกอบเข้าด้วยกันอย่างแนบสนิท สามารถเคลื่อนย้ายและถอดเก็บได้ (ราคาแต่ละชิ้นไม่เกิน ๕,๐๐๐ บาท)

จึงจัดเป็นวัสดุ ซึ่งไม่เข้าข่ายในการคำนวณความเสียหาย ตามหลักเกณฑ์การคำนวณค่าเสื่อมราคาทรัพย์สินที่ต้องเรียกชดใช้ตามความรับผิดทางละเมิด ที่กระทรวงการคลังกำหนด (เนื่องจากราคาแต่ละชิ้นไม่เกินห้าพันบาท)

กรณีจึงยังถือไม่ได้ว่าทางราชการได้รับความเสียหาย ให้ยุติเรื่องความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่กรณีนำแผ่นยางสังเคราะห์ (EVA) ที่ใช้งานในร่ม ไปใช้กับงานกลางแจ้ง

​      ๓. สมาคมพิทักษ์สิทธิผู้บริหาร ครูและบุคลากรทางการศึกษา ได้เคยส่งทีมงานฝ่ายกฎหมายเดินทางไปให้ความช่วยเหลือดูแลให้แนวทางในการต่อสู้คดีให้กับบรรดาผู้ที่ถูก ป.ป.ช.ตั้งข้อกล่าวหาเรื่องการทุจริตในการก่อสร้างสนามฟุตซอลหลายจังหวัด พบว่าผู้ที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ผู้อำนวยการโรงเรียน และข้าราชการครู ได้กระทำการอย่างสุจริต ไม่พบพฤติกรรมทุจริตแต่อย่างใด

อีกทั้งเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (นายอัมพร พินะสา) ก็เคยให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า ตนต้องลงนามลงโทษไล่ออกข้าราชการร่วมร้อยรายด้วยน้ำตาข้อหาทุจริตการจัดซื้อจัดจ้างสนามฟุตซอล ย่อมเป็นเครื่องยืนยันได้ว่า บรรดาผู้เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ในระดับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา และในระดับโรงเรียนไม่ได้กระทำการทุจริต

     ​ ด้วยเหตุดังกล่าวสมาคมพิทักษ์สิทธิผู้บริหาร ครูและบุคลากรทางการศึกษา จึงขอความเมตตาจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ดังนี้

     ​ ๑. ให้นโยบายต่อส่วนราชการที่เกี่ยวข้องทราบว่า หากมีข้อกล่าวหาทั้งกรณีเรื่องการก่อสร้างสนามฟุตซอลและเรื่องอื่นๆ ที่คล้ายกัน ในประเด็นลักษณะเช่นนี้ให้สั่งการยุติเรื่องทั้งทางวินัย ทางละเมิด และทางอาญา 

      ​​​​​​​​​​​​​๒. แจ้งให้ ป.ป.ช.ทราบเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณา

      ​๓. หากมีเรื่องลักษณะเช่นนี้ และ ป.ป.ช.ได้ชี้มูลว่าเป็นทุจริต แล้ว ให้ส่วนราชการในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการที่มีอำนาจสั่งลงโทษ ให้สั่งลงโทษในระดับไม่สูงกว่าปลดออกจากราชการ เพื่อให้มีโอกาสได้รับบำเหน็จบำนาญและมีโอกาสต่อสู้คดีในชั้นศาลและกลับเข้ารับราชการ

      ​​​​๔. กรณีกล่าวหาเรื่องทุจริตก่อสร้างสนามฟุตซอลและเรื่องอยู่ระหว่างการพิจารณาอุทธรณ์ของคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา​ (ก.ค.ศ.) นั้น ขอให้พิจารณาลดระดับโทษเป็นปลดออกจากราชการและให้พิจารณาโดยเร็ว เพื่อผู้ที่ยื่นอุทธรณ์ได้มีโอกาสรับเงินบำเหน็จบำนาญเลี้ยงชีพในระหว่างรอการพิจารณาของศาลปกครองต่อไป

   จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาและขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูงมา ณ โอกาสนี้

      ขอแสดงความนับถือ

     นายรัชชัยย์ ศรสุวรรณ

นายกสมาคมพิทักษ์สิทธิผู้บริหาร ครูและบุคลากรทางการศึกษา (ส.พ.บ.ค.)

โทร ๐๘๓-๒๖๕๒๖๙๓

อนึ่ง ดร.รัชชัยย์เปิดเผยกับผู้สื่อข่าว สำนักข่าวการศึกษาออนไลน์ EdunewsSiam.com ด้วยว่า "ผู้ที่ได้รับผลกระทบเรื่องฟุตซอลโปรดอ่าน และนำสิ่งที่ส่งมาด้วย (หนังสือกรมบัญชีกลาง) ยื่นต่อศาลทุจริต (หากถูกฟ้องแล้ว), ยื่นต่อศาลปกครอง (ยื่นเพิ่มเติมหากยื่นฟ้องแล้ว) หากสงสัยโทรถามผมเป็นการส่วนตัว เอกสารนี้มีประโยชน์มากถึงขั้นหลุดคดี”

 

 

(โปรดกดถูกใจเพจด้านล่าง เพื่อติดตามข่าวสารบนเว็บไซต์ edunewssiam.com)