สมพงษ์ จิตระดับ" ห่วง ตำรวจนั่ง ‘เสมา 1’
พาการศึกษาดิ่งกว่าเดิม ไม่ตอบโจทย์อนาคต
หลังจากมีพระบรมราชโองการ โปรดเกล้าฯ ประกาศแต่งตั้งรัฐมนตรี ซึ่งหนึ่งในกระทรวงสำคัญที่ถูกจับตามองคือ กระทรวงศึกษาธิการ ที่มี พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ นั่งตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นั้น
ศ.สมพงษ์ จิตระดับ นักวิชาการด้านการศึกษา กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (ภาคประชาสังคม) ในคณะกรรมการบริหารกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษาแสดงความเห็น กับ The Active สื่อออนไลน์แห่งหนึ่ง ถึง พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.กระทรวงศึกษาธิการ คนใหม่ ว่า...
ต้องยอมรับว่าการศึกษาไทย เป็นประเด็นปัญหาสังคมที่รุนแรง และตกต่ำมานาน ทุกฝ่ายในสังคมต่างรับทราบปัญหาคุณภาพการศึกษาว่า ต้องการคนที่รู้จริง เข้าใจปัญหา เพื่อขับเคลื่อนการศึกษาสร้างพลเมืองไปสู่อนาคตให้ได้
แต่เมื่อได้รัฐมนตรี ที่มีภูมิหลังการทำงานราชการตำรวจ ไม่เคยมีผลงานด้านการศึกษา ไม่ปรากฏวิสัยทัศน์ที่เกี่ยวข้องกับประเด็นการศึกษา จึงอาจถือได้ว่ากระทรวงศึกษาธิการ ได้รัฐมนตรีที่อาจผิดตำแหน่ง น่าจะไม่สอดคล้องกับสภาพปัญหาข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ตนมองด้วยว่า พล.ต.อ.เพิ่มพูน ซึ่งมีบทบาทรับราชการตำรวจมาตลอดชีวิต อาจพบกับปัญหาการเข้ามาขับเคลื่อนการศึกษาไปสู่โลกอนาคต ที่ต้องมองภาพ นโยบาย นอกกรอบ มีแนวคิดทันสมัย เปิดกว้าง รับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น
แต่อาจกลายเป็นว่า ระบบการศึกษาไทย ยังคงติดกรอบราชการเช่นเดิม เน้นกฎ ระเบียบวินัย ในยุคที่นักเรียนต้องการพื้นที่แสดงออก กล้าพูดกล้าทำ และรู้จักมุมมองด้านสิทธิเสรีภาพของตัวเองมากขึ้น อาจเป็นเรื่องยากที่จะบริหารจัดการถ้าผู้กำกับดูแลนโยบาย ไม่เปิดกว้าง และหากรู้สึกว่าการกระทำต่าง ๆ เป็นเรื่องที่ทำเกินขอบเขต อาจยิ่งทำให้กฎ ระเบียบในโรงเรียนเข้มงวดมากขึ้นหรือไม่
ศ.สมพงษ์ ยังเห็นว่า การศึกษาเป็นข้อต่อสำคัญ ซึ่งถ้ามองในบทบาทการขับเคลื่อนงานด้านการพัฒนาคนตั้งแต่ท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย ระดับขั้นพื้นฐาน อาชีวะ กระทรวงศึกษาธิการ จนไปถึงอุดมศึกษา ล้วนเป็นโควตาของคนพรรคภูมิใจไทยทั้งสิ้น
มุมหนึ่งก็อาจเป็นเรื่องดี ที่จะทำให้นโยบายไร้รอยต่อ มีนโยบายที่เป็นเอกภาพ แต่ในทางตรงข้าม ถ้าเกิดได้รัฐมนตรีที่ไม่เข้าใจเนื้องาน ไม่เข้าใจสิ่งที่ต้องทำ บทบาทที่ต้องขับเคลื่อนก็อาจทำได้แค่การเป็นพื้นที่ใช้หาเสียง ใช้การศึกษาเพื่อการเมืองมากกว่าหรือไม่ ซึ่งก็ขอไม่ให้เป็นแบบนั้นเพราะจะยิ่งทำให้การศึกษายิ่งอ่อนแอลงไปกว่าเดิม
“เมื่อได้กระทรวงศึกษาธิการ ได้รัฐมนตรีที่เป็นตำรวจมาบริหาร อาจทำให้ได้ระบบราชการซ้อนราชการ ยิ่งหนักเข้าไปใหญ่ เพราะการศึกษายุคใหม่ จำเป็นต้องคิดนอกกรอบ ทำงานแบบภาคเอกชน เข้าถึงปัญหา เปิดกว้าง รับฟังผู้อื่นให้มากที่สุด จริง ๆ"
ถ้ามองในแง่ดี สำหรับรัฐมนตรีที่ไม่ได้รู้เรื่องการศึกษามาเลย แต่ขอเพียงเปิดใจกว้างรับฟังความเห็นผู้อื่น ศึกษา มองแนวโน้มปัญหาให้ออก ก็อาจพอทำงานได้ ถ้าลองเปิดใจ ทำงานกับคนรุ่นใหม่ได้ ทั้งในเชิงของเรื่องหลักสูตร ฐานสมรรถนะ การสร้างพลเมืองประชาธิปไตย การเรียนรู้คู่การมีงานทำ บัณฑิตจบใหม่ได้เงินเดือนอย่างที่รัฐบาลหาเสียงเอาไว้จริง การแก้ปัญหา กยศ. ให้ได้เข้าถึงอย่างเป็นธรรม ดอกเบี้ยต่ำ
ถ้าคุณจับประเด็นหลัก ๆ ของการศึกษาไทยได้ ก็พอไปได้ เพียงแต่ว่าอย่ายึดการเมืองมากเกินไป ขอให้ยึดประโยชน์การศึกษาเป็นหลัก คือถ้าไม่มีภูมิหลังขอให้เปิดกว้างรับฟังก็ทำงานให้เป็นประโยชน์ได้ ศ.สมพงษ์ จิตระดับ กล่าว
ศ.สมพงษ์ ยังฝากให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ คนใหม่ ขับเคลื่อนแก้ปัญหาการศึกษาเร่งด่วน เพื่อกู้วิกฤตศรัทธากลับมาทันที โดยเฉพาะเรื่อง การผลักดัน ร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ ฉบับใหม่ ที่ยังค้างอยู่ในสภาฯ การสร้างโอกาสให้นักเรียนเข้าถึงการศึกษา ลดความเหลื่อมล้ำ ทำให้ กยศ.เป็นประโยชน์กับคนยากจน การสร้างโอกาสเรียนต่ออุดมศึกษา การปรับโครงสร้าง จัดสรรบุคลากรให้เพียงพอกับงาน เพื่อลดภาระงานครู คืนครูกลับห้องเรียนให้ได้อย่างจริงจัง การทำเรื่องหลักสูตรฐานสมรรถนะให้ดีเพื่อพัฒนาคนสู่อนาคต
ที่สำคัญ คือ การแก้ปัญหาเด็กออกกลางคัน ปรับปรุงเรื่องการจัดสรรทรัพยากรทางการศึกษาให้เข้าถึงอย่างเหมาะสม ทั้งค่าใช้จ่ายรายหัว การหาแนวทางช่วยเหลือสภาวะค่าครองชีพของผู้ปกครองที่ประสบปัญหา การเร่งการจัดหาทุน การมีงานทำให้พ่อแม่เด็ก เหล่านี้ถือเป็นเรื่องท้าทายอย่างมากกับวงการศึกษาที่ต้องการผู้นำมาขับเคลื่อนให้เห็นผลอย่างจริงจัง
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าว edunewssiam ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/edunewssiamfanpage