สอศ.ปลื้มสุดยอดศูนย์บ่มเพาะผู้ประกอบการอาชีวะระดับชาติ 5 ดาว

     

       สอศ.จัดงานประเมินศูนย์บ่มเพาะผู้ประกอบการอาชีวศึกษา ระดับชาติ ปีงบประมาณ พ.. 2566  ระหว่างวันที่ 27 -  28  กันยายน 2566 ณ วิทยาลัยการอาชีวศึกษาปทุมธานี มีศูนย์บ่มเพาะผู้ประกอบการอาชีวศึกษาที่ผ่านการคัดเลือก ระดับภาค ทั้ง 5 ภาค เข้าร่วมงาน จำนวน 57 แห่ง

       

       เรืออากาศโท  สมพร  ปานดำ  รองเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา(รองเลขาธิการกอศ.) เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ขอแสดงความยินดีกับศูนย์บ่มเพาะผู้ประกอบการอาชีวศึกษา ที่ได้รับรางวัลโล่เชิดชูเกียรติ ระดับชาติ  5 ดาว ซึ่งมีจำนวน 20 รางวัล ดังนี้ 1. SECRET AROMA CANDLE วิทยาลัยเทคนิคสระบุรี  2. CUT MAR ART วิทยาลัยเทคนิคราชบุรี  3.อุปกรณ์ปิ้งย่างปรับระดับ วิทยาลัยการอาชีพกาญจนบุรี  4.พีบูก้าสครับ วิทยาลัยการอาชีพวังไกลกังวล  5.THE RICE สเปรย์แอลกอฮอล์จากปลายข้าวแบบ 2in1 วิทยาลัยอาชีวศึกษามหาสารคาม  6.SUPANNIKA เครื่องสำอางจากธรรมชาติ วิทยาลัยอาชีวศึกษาร้อยเอ็ด  7.เบญจรงค์ลายซิ่น วิทยาลัยอาชีวศึกษาอุตรดิตถ์  8.น้ำพริกปลา R-เพ็ชร์สมุทร วิทยาลัยอาชีวศึกษาเพชรบุรี  9.หรอยเอาไว้ BY M-Mat วิทยาลัยเทคนิคระยอง  10.ผงปรุงรสอ่อมผำ วิทยาลัยการอาชีพบางปะกง  11.ทุเรียนอัดแท่งอบกรอบผสมธัญพืชและรังนก วิทยาลัยอาชีวศึกษาชุมพร  12.จักจั่นทะเลแซ่บจี๊ด วิทยาลัยการอาชีพท้ายเหมือง  13.น้ำพริกส้มแขกปลานิลหนังกรอบวิทยาลัยการอาชีพเบตง  14.น้ำยาขนมจีนปักต์ใต้กึ่งสำเร็จรูป  วิทยาลัยการอาชีพปัตตานี  15.FIN Healthy วิทยาลัยอาชีวศึกษาสกลนคร  16.Yummy Sauce (ซอสมะละกอ) วิทยาลัยการอาชีพโพนทอง 17.ไรท์แอม วิทยาลัยอาชีวศึกษาสุรินทร์ 18.ชาปีบเบญจพรรณ แบรนด์ กาสะลอง วิทยาลัยเทคนิคลพบุรี 19.ชาสมุนไพรน้ำเค็มบ้านโมกหลวง วิทยาลัยการอาชีพปราณบุรี และ20.ปลาหมอ (Kantikorn Doctor) วิทยาลัยเทคนิคสิงห์บุรี

       

       รองเลขาธิการกอศ. กล่าวอีกว่า สอศ. ได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาสมรรถนะของผู้เรียนด้านวิชาชีพและด้านการเป็นผู้ประกอบการมาอย่างต่อเนื่อง  และได้เล็งเห็นถึงโอกาสที่ผู้เรียนอาชีวศึกษาจนถึงผู้สำเร็จการศึกษา จะสามารถใช้องค์ความรู้ทางวิชาชีพ ต่อยอดไปสู่การพัฒนาชิ้นงาน โครงงาน สิ่งประดิษฐ์ และผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่ผู้เรียนสนใจ ให้สามารถจำหน่ายและสร้างรายได้ ทำให้ผู้เรียนมีรายได้ระหว่างเรียน  มีทักษะในการประกอบธุรกิจ เป็นการเตรียมความพร้อมแก่เยาวชนในระดับอาชีวะให้สามารถเป็นผู้ประกอบการในระยะเริ่มต้นได้

       

       "สอศ. จึงดำเนินการพัฒนาผู้เรียนให้มีความรู้ทางด้านการจัดการธุรกิจ โดยเริ่มต้นด้วยกระบวนการจัดการเรียนการสอนตามหลักสูตรในรายวิชา ธุรกิจและการเป็นผู้ประกอบการ” เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจ สร้างจิตสำนึกและแรงบันดาลใจในการเป็นผู้ประกอบการให้แก่ผู้เรียนอาชีวศึกษา สำหรับผู้เรียนที่มีผลิตภัณฑ์หรือแนวคิดทางธุรกิจที่มีความเป็นไปได้ในเชิงพาณิชย์ จะมีช่องทางสนับสนุนให้ผู้เรียนได้เข้ารับการบ่มเพาะและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้านการเป็นผู้ประกอบการ โดยสมัครเข้ารับการพัฒนาศักยภาพผู้เรียนภายใต้การบริหารจัดการของศูนย์บ่มเพาะผู้ประกอบการอาชีวศึกษา มีการอบรมการเขียนแผนธุรกิจ และนำเสนอแผนธุรกิจเพื่อรับเงินทุนสนับสนุนในการประกอบธุรกิจให้สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างเป็นรูปธรรม" 

       

      เรืออากาศโท สมพร  ปานดำ กล่าวต่อไปว่า สำหรับการวัดผลการดำเนินงานของ ศูนย์บ่มเพาะผู้ประกอบการอาชีวศึกษาในสถานศึกษาทุกแห่งทั่วประเทศนั้น มีกระบวนการประเมินศักยภาพการดำเนินงานทั้งในระดับจังหวัด ระดับภาค และระดับชาติ ภายใต้แนวคิดการบริหารจัดการตามบริบทเชิงพื้นที่ และคัดเลือกสถานศึกษาที่มีคะแนนสูงสุด 3 ลำดับแรกของแต่ละกลุ่มพื้นที่ ทั้ง 19 กลุ่ม ประกอบด้วยสถานศึกษาจากภาคกลาง จำนวน 12 แห่ง ภาคตะวันออกและกรุงเทพมหานคร 9 แห่ง ภาคใต้ 9 แห่ง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 15 แห่ง และภาคเหนือ 12 แห่ง รวม 57 แห่ง เพื่อเข้ารับการประเมินระดับชาติในครั้งนี้ ซึ่งจัดในรูปแบบการแสดงผลงาน ผลิตภัณฑ์ของผู้เรียนภายใต้ศูนย์บ่มเพาะผู้ประกอบการอาชีวศึกษา เป็นทั้งตลาดขนาดย่อม และแหล่งเรียนรู้การศึกษาดูงาน ซึ่งเป็นผลผลิตและความสำเร็จของศูนย์บ่มเพาะผู้ประกอบการอาชีวศึกษาตลอด 2 วัน โดยคัดเลือกสถานศึกษาที่มีศักยภาพสูงสุดจำนวน 20 ทีม รับมอบโล่เชิดชูเกียรติระดับ 5 ดาว และสถานศึกษา 37 ทีม รับมอบโล่เชิดชูเกียรติระดับ 4 ดาว

       

       “ทั้งนี้ สอศ.ขอเชิดชูเกียรติสถานศึกษาดังกล่าวให้เป็นแบบอย่างสำหรับการดำเนินงานของสถานศึกษาอื่นในสังกัด เพื่อให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการทำธุรกิจอย่างเป็นระบบ และสร้างแรงจูงใจให้แก่เยาวชนในระดับอาชีวศึกษาในการต่อยอดผลงานหรือผลิตภัณฑ์ไปสู่เชิงพาณิชย์และส่งเสริมทักษะการประกอบอาชีพ เพื่อก่อให้เกิดผู้ประกอบการใหม่ที่มีศักยภาพในอนาคตและเป็นรากฐานสำคัญของระบบเศรษฐกิจไทยต่อไป”  รองเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กล่าวทิ้งท้าย