ส.บ.ม.ท. จี้ เสมา 2′ แก้วิกฤตขาดครู หลังสอบขึ้นบัญชีไม่พอบรรจุ

 

ส.บ.ม.ท. จี้ เสมา 2′ แก้วิกฤตขาดครู 

หลังสอบขึ้นบัญชีไม่พอบรรจุ  

 

นายณรินทร์ ชำนาญดู ผู้อำนวยการโรงเรียนกาญจนานุเคราะห์ ในฐานะนายกสมาคมผู้บริหารโรงเรียนมัธยมศึกษาแห่งประเทศไทย (ส.บ.ม.ท.) เปิดเผยผู้สื่อข่าวว่า ขณะนี้โรงเรียนจำนวนมากประสบปัญหาขาดแคลนครูอย่างหนัก

 

ทั้งนี้เนื่องจากมีผู้เกษียณอายุราชการกว่า 15,000 อัตรา ซึ่งแม้จะได้รับการคืนอัตราเกษียณมาทั้งหมด แต่กลับไม่มีครูที่พร้อมสำหรับการบรรจุทดแทนอัตราว่าง เนื่องจากที่ผ่านมาจะเรียกบรรจุจากบัญชีการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย สังกัด สพฐ. (ว14) แต่การสอบเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา มีผู้สอบผ่านน้อย

 

เช่นเดียวกับการคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย กรณีที่มีความจำเป็นหรือมีเหตุพิเศษ (ว16) ซึ่งยังมีอัตราว่างเหลืออยู่อีกกว่า 1,200 อัตรา ทำให้เกิดปัญหา เพราะแม้จะมีอัตราและตำแหน่ง แต่ก็ไม่สามารถเรียกบรรจุแต่งตั้งได้ เพราะมีผู้ที่สอบขึ้นบัญชีไม่เพียงพอ

 

 

ดังนั้นจึงอยากให้ นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) และว่าที่ร้อยตรีธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) คนใหม่ เร่งแก้ปัญหาดังกล่าว

 

 

ซึ่งปัญหาขาดแคลนครู ถือเป็นเรื่องสำคัญที่อยากให้รัฐมนตรีช่วยว่าการ ศธ.ในฐานะที่กำกับดูแล สพฐ. และว่าที่ร้อยตรีธนุ เร่งหาทางแก้ไข หากเป็นไปได้อยากเสนอให้กระจายอำนาจลงไปให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) สามารถจัดสอบครูผู้ช่วย ว14 และ ว 16 ได้มากกว่าปีละ 1 ครั้ง เช่น หากเขตพื้นที่ใดขาดแคลนครู ก็สามารถเปิดสอบได้ทันที โดยไม่ต้องรอปฏิทินสอบจาก สพฐ.

 

 

“คิดว่าแนวทางดังกล่าวจะช่วยแก้ปัญหาขาดแคลนครูได้อย่างแน่นอน ส่วนข้อกังวลเรื่องการทุจริตนั้น หาก สพฐ.มีมาตรการลงโทษที่รุนแรง ก็เชื่อว่าจะไม่มีใครกล้าที่จะทำการทุจริต หรือหากมีก็เป็นจำนวนที่น้อยมาก” นายณรินทร์กล่าว

 

 

กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ยังขอเร่งรัดให้สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) เร่งตรวจผลงานของผู้ที่ยื่นขอมีและเลื่อนวิทยฐานะ ตามหลักเกณฑ์เดิม ว17 ซึ่งยื่นไปตั้งแต่ปี 2564 และยังค้างอยู่กว่า 600 คน และตอนนี้บางคนเกษียณไปแล้วทำให้เสียสิทธิ เพราะไม่สามารถที่จะปรับปรุงผลงานได้

 

 

“ดังนั้นจึงขอให้ ก.ค.ศ.มีกรอบเวลาการพิจารณาที่ชัดเจน ทั้งนี้ส่วนตัวไม่แน่ใจว่าสาเหตุที่ ก.ค.ศ.พิจารณาผลงานล่าช้าเป็นเพราะเหตุใด หากเพราะคณะกรรมการประเมินไม่เพียงพอก็อยากให้เพิ่มคณะกรรมการ เช่นเดียวกับหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินตำแหน่งและวิทยฐานะข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา หรือเกณฑ์ PA (ว 9/2564) ซึ่งมีความล่าช้าในช่วงแรก แต่เมื่อเพิ่มคณะกรรมการประเมินแล้ว ก็ทำให้สามารถพิจารณาได้เร็วขึ้น” นายณรินทร์ กล่าวในตอนท้าย

 

 

#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าว edunewssiam ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/edunewssiamfanpage