ผอ.ไอเดียเจ๋ง นักเรียน-ครู ยิ้มได้ ถูกใจเเทงค์
ซีเมนต์เก็บน้ำฝน ดัดแปลงเป็นห้องน้ำสะอาด
วัดปราโมทย์ ต.บ้านปราโมทย์ อ.บางคนที จ.สมุทรสงคราม ถือว่าเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้านอีกแห่งหนึ่ง ปัจจุบันมีพระครูปราโมทย์ปัญญาวัฒน์ หรือหลวงพ่อเลิศ เจ้าคณะตำบลบางนกแขวก เป็นเจ้าอาวาส ซึ่งเป็นพระผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการสร้างสรรค์ความเจริญให้วัดจัดระเบียบได้สวยงามลงตัว สะอาดสะอ้าน มีความสมบูรณ์ด้วยการศึกษา มีทั้งโรงเรียนพระปริยัติธรรม และโรงเรียนประถมศึกษา และสำนักอุบาสิกา
นอกจากนี้ ยังเป็นที่รับรู้กันว่า ร.ร.วัดปราโมทย์ ต.บ้านปราโมทย์ อ.บางคนที จ.สมุทรสงคราม ซึ่งเป็นโรงเรียนขนาดเล็กระดับประถมศึกษา และ ภายในโรงเรียนมีถังน้ำ ฝ.33 มีขนาดกว้าง 2.5 เมตร สูง 4 เมตร สำหรับเก็บน้ำฝนขนาดใหญ่ ที่ตั้งอยู่ข้างอาคารเรียนจำนวน 3 ถัง ซึ่งมีสภาพเก่าชำรุด ไม่สามารถกักเก็บน้ำฝนได้ เพราะมีอายุการใช้งานไม่ต่ำกว่า 35 ปี
ก็ต้องชื่นชมในความคิดความอ่าน สมกับเป็นผู้บริหารสถานศึกษา ที่มีวิสัยทัศน์ อย่างเช่น ว่าที่่ ร.ต.อำนาจ อินทรสุนทร ผอ.ร.ร.วัดปราโมทย์ มีไอเดียเจ๋ง ดัดแปลงเเทงค์ซีเมนต์เก็บน้ำฝนที่ใช้งานไม่ได้มาดัดแปลงเป็นห้องน้ำห้องส้วมให้เด็กและครูได้ใช้กันอย่างมีความสุข สะอาดน่าใช้ จนเป็นข่าวให้ฮือฮากันทั้งประเทศ
แม้กระทั่งข่าวนอกลู่ ของสถานีโทรทัศน์ ช่อง 3 HD ไปทำเป็นคลิปข่าวนำไปออกอากาศ สื่อหลักพาไปทำข่าวเผยแพร่ชื่นชมมากมาย จนกลายเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้บริหารโรงเรียนหลายแห่งนำไปเป็นตัวอย่างที่จะดำเนินการ
ที่สำคัญตามมา คือ การทำให้เกิดรวมพลังของชาวบ้านในชุมชนเข้ามาช่วยคิดช่วยทำจนเป็นห้องน้ำดี สะอาด สวยงาม และได้พัฒนาสืบต่อมาถึง “โครงการ สุขาดี มีความสุข” ตามนโยบาย ของ พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และ ว่าที่.ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.)
ว่าที่่ ร.ต.อำนาจ อินทรสุนทร ผอ.ร.ร.วัดปราโมทย์ เล่าถึงเรื่องราวโรงเรียนแห่งนี้ เป็นโรงเรียนขนาดเล็กอยู่ห่างไกลและในถิ่นทุรกันดาร เปิดสอนตั้งแต่ระดับอนุบาล – ป.6 ปัจจุบันมีนักเรียนทั้งหมดจำนวน 105 คน และมีนักเรียนก่อนปฐมวัยที่ศูนย์เด็กเล็กอีก 30 คน ที่ต้องใช้ห้องส้วมร่วมกันซึ่งเดิมมีเพียง 10 ห้อง ไม่เพียงพอและเริ่มชำรุดทรุดโทรม
...วันหนึ่งได้มายืนมองเเท็งก์เก็บน้ำฝนขนาดใหญ่ ที่ทำด้วยปูนซีเมนท์มีสภาพเก่าและชำรุดไม่สามารถกักเก็บน้ำฝนได้เหมือนเช่นเดิม และตั้งอยู่ข้างอาคารเรียน ถ้าจะทุบทิ้งก็ต้องเสียค่าใช้จ่าย และเป็นอันตรายต่อนักเรียน จึงมีแนวคิดดัดแปลงเป็นห้องน้ำ
ในฐานะผู้บริหารโรงเรียนพร้อมคณะครูและชาวบ้าน จึงได้ร่วมปรึกษาหารือขอความคิดเห็น จึงนำมาซึ่งการช่วยกันปรับปรุงและมาดัดแปลงแท็งก์เก็บน้ำดังกล่าว โดยคณะครูและชาวบ้านจึงได้ช่วยกันบริจาคสมทบทุนได้ จำนวน 45,000 บาท เพื่อนำไปปรับปรุงซ่อมแซมถังเก็บน้ำฝนดังกล่าว
ทำเป็นห้องส้วมโดยการเจาะผนังถังเก็บน้ำฝน ทำเป็นประตูทางเข้าด้านข้างเเท็งก์ พร้อมติดตั้งอุปกรณ์โถส้วมและฝักบัวสำหรับอาบน้ำ เอาไว้ให้กับคณะครูและนักเรียนในโรงเรียนได้มีห้องน้ำห้องส้วมใช้ได้อย่างเพียงพอ โดยมีแรงงานชาวบ้านมาช่วยกันทำจนแล้วเสร็จ ทำให้ประหยัดงบประมาณของแผ่นดิน ซึ่งเป็นที่แปลกตาของผู้พบเห็นที่แวะไปเยี่ยมเยียนโรงเรียนแห่งนี้
อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับในไอเดียสุดเจ๋งของคณะครูและชาวบ้านที่ได้ช่วยกันคิดและดัดแปลงเเท็งก์เก็บน้ำฝนเก่าที่ใช้งานไม่ได้แล้ว ให้สามารถใช้ประโยชน์ได้ดีกว่าที่จะปล่อยทิ้งให้เปล่าประโยชน์
